ซากนางเงือกฟิจิ สิ่งมีชีวิตในตำนาน ที่ถูกอุปโลกน์ให้มีตัวตนอยู่จริง
ซากนางเงือกฟิจิ สิ่งมีชีวิตในตำนาน ที่ถูกอุปโลกน์ให้มีตัวตนอยู่จริง
บางครั้งเรื่องโกหกหลอกลวง ก็ช่างน่าเชื่อถือ จนหลายๆคนปักใจเชื่อว่าคือเรื่องจริง หรือความจริง เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ นางเงือก Feejee หรือ นางเงือกฟิจิ (Fiji mermaid) บางอย่างที่คาดว่าเป็นสัตว์ครึ่งมนุษย์ มีส่วนครึ่งท่อนบนเป็นคน ส่วนครึ่งท่อนล่างเป็นปลา หรือที่เราคุ้นเคยกันในฐานะเงือก ซึ่งปรากฏตามนิยายปรัมปราในหลายประเทศทั่วโลก
ในทศวรรษ 1840s นางเงือกฟิจิ ได้ปรากฏตัวขึ้นในในสหรัฐฯ ผู้คนจำนวนมากต่างตกตะลึงไปกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพราะมันคือ ซากนางเงือกตัวหนึ่งที่ถูกครอบครองโดยพี.ที. บาร์นัม (P.T. Barnum) นักธุรกิจและเจ้าของโรงละครสัตว์ชาวอังกฤษ และเขายังเป็นเจ้าของอเมริกันมิวเซียมอีกด้วย
หลังจากที่บาร์นัมได้ได้สิ่งที่เชื่อว่าเป็นซากนางเงือกมาเขาก็นำมาจัดแสดงไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ของเขาเอง และมันก็ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาเยี่ยมชมซากนางเงือกอย่างล้นหลาม กระทั่งในช่วงปี ค.ศ.1859 ปรากฏว่าซากนางเงือกฟิจิของบาร์นัม ได้หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งในปี 1969 ก็มีเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์พีบอดีแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเข้าไปพบนางเงือกปลอมตัวหนึ่งเข้าในพื้นที่จัดเก็บ และเชื่อว่ามันน่าจะเป็นนางเงือกตัวเดียวกัน
อย่างไรก็ดี เรื่องราวของนางเงือกฟิจิ ก็ถูกเปิดโปงอีกครั้ง เมื่อผู้คนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าซากนางเงือกนี้อาจเป็นขอปลอม และในท้ายที่สุดบาร์นัม ก็ได้สารภาพว่า ซากนางเงือกฟิจิ เป็นเพียงของที่เขาปลอมมาเท่านั้น และเหตุผลก็มาจากการที่เขาต้องการหารายได้เข้าสู่พิพิธภัณฑ์ของเขา ที่กำลังซบเซาอยู่นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุว่า ซากนางเงือกเป็นผลงานของช่างฝีมือชาวอินโดนีเซีย โดยการใช้กระดาษอัดและวัสดุจากปลาแปลก ๆ หรือหางของปลา และลำตัวของลูกลิงอุรังอุตังมาเย็บเข้าด้วยกันกับหัวของลิงอย่างแนบเนียนจนดูเหมือนว่าเป็นซากนางเงือกจริงๆ