รับศพคุณพ่อ
ตอนนั้น..บ้านเราอยู่ใกล้ๆ รพ.ตำรวจ..
และคุณพ่อก่อนเสียก็มารักษาตัวที่นี่เสมอๆ
พอคุณพ่อเสียที่ รพ. ตำรวจด้วยโรคทางอายุกรรมความที่ คุณพ่อหย่าร้างกับคุณแม่ และแม่กับญาติๆก็อยู่ต่างจังหวัดหมด เราซึ่งอยู่กับคุณพ่อแค่สองคนเหนื่อยมากๆ ไหนจะไปติดต่อวัดเคลียร์ค่ารักษาแจ้งขอใบมรณบัตรที่เขตปทุมวัน ทำให้ศพของคุณพ่อซึ่งทาง รพ.ตำรวจนำไปเก็บที่สถาบันนิติพ่อก็อยู่ที่นั่นตั้ง 2 วันกว่าที่เรากับคุณแม่และญาติๆจะนำโลงมาบรรทุกศพไปวัดก็เป็นวันที่สามที่พ่อเสีย โดยทางเราให้ร้านขายโลง ซึ่งทางเจ้าของร้านเป็นคุณพ่อของเพื่อนมารับศพไปวัด พ่อเพื่อนเจ้าของร้านโลงรู้จักสถาบันนิติดี วันที่เราไปรับศพคุณพ่อคนมารับศพเยอะมากๆ รอคิวยาวมากเลยอย่างว่า ที่นี่เป็นที่รวมศพไม่มีญาติ และรถจากมูลนิธิต่างๆ ไปเก็บศพมาจากทั่วกรุงเทพและปริมณฑล พ่อเพื่อนเห็นว่ารอนาน ท่านเลยพาผมเดินเข้าไปด้านในอาศัยความคุ้นเคยรู้จัก จนท.ข้างในขอติดต่อรับศพก่อน
ท่านพาผมเข้าไป..ตอนราวๆ 11.45 น. แล้วท่านก็ให้ผมเดินผ่านห้องพิธีการศพ ซึ่งเป็นสถานที่ที่..ให้ญาตินำโลงมาบรรจุศพตรงนี้ แต่พ่อเพื่อนพาเข้าไปด้านในเลยคือศพที่ถูกถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อนตัวแข็งทื่อถูกนำมาวางซ้อนๆกันในเตียงเข็นเตียงละ 2-3 ศพผู้หญิง ผู้ชาย วางซ้อนๆกันไปเพราะสถานที่คงคับแคบและไม่มีพื้นที่พอที่จะวางเตียงละศพและ จนท. ต้องถอดเสื้อผ้า ทำความสะอาดศพ ที่มีอยู่เป็นจำนวนหลายสิบศพ อาจจะถึงหลักร้อยในแต่ละวัน เราเดินผ่านห้องทำงานนี้ไปด้วยความสยองเหมือนในหนังสยองขวัญในที่สุดพ่อเพื่อน..ให้เรามายืนรอด้านนอกอาคารเป็นลานปูนโล่งๆ ขนาด 20 x 20 เมตรเป็นที่วางศพ..ที่มูลนิธินำมาส่งใหม่ๆ ห่อผ้าขาวมาเอามาถึง แกะผ้าขาวออก โชว์ศพให้นอนหงายตาลืมโพลงทุกศพ แบบศพที่มีเลือดเลอะเทอะก็วางตรงนี้เลยกองกับพื้นปูนไม่ต่ำกว่า 20 ศพคือ พ่อเพื่อนเค้าให้เรายืนรอตรงลานนี้ เขาขึ้นไปเอาศพคุณพ่อเรากับ จนท. ข้างบนอาคารใหญ่ 15 ชั้นอีกหลังนึงที่ิอยู่ถัดไป โดย จนท. บอกว่า คุณพ่อผม เสียมา2 วันกว่า กลัวศพเน่าจึงนำไปแช่ ในห้องเย็นบนอาคารจะไปนำลงมาให้ ให้ผมยืนรอข้างนอก พอพวกเค้าขึ้นไปได้แค่ 2-3 นาทีก็พักเที่ยงพวก จนท. ที่ทำงานกับศพ เดินออกไปกินข้าวกลางวันไปกันหมดเลยนะ 7-8 คนแล้วเราก็ยืนรออยู่คนเดียว
มองบนพื้นปูนศพทั้งนั้นมองไปในอาคาร จะเจอศพเปลือยวางซ้อนๆกันบนเตียงเข็น ตัวแข็งทื่อ เหมือนตุ๊กตาเพราะตายมาหลายวัน เส้นเอ็นตึงข้อสังเกตอย่างนึงผู้หญิง ไม่มีหน้าอกหน้าออกฟีบไปหมดถ้าไม่สังเกตอวัยวะเพศก็นึกว่าเหมือนผู้ชาย ผมมองดูจนกลัว แล้วเสียงแอร์ เสียงเครื่องต่างๆมันดับหมด คนไปพักข้างในก็เงียบหันมามองศพใหม่ๆ ที่วางบนพื้นใกล้ๆคนแก่ตายแบบคนจรจัด นอนตาลืมโพง..ตัวดำผอมลีบในชุดเสื้อผ้าเก่าๆมี ผู้หญิงสาวคนนึงสวยครับแบบคนเชื้อจีนแต่ว่าคนเชื้อจีนตายผิวจะเหลืองคือขาวเหลืองก็เลยพึ่งรู้ว่า พอคนขาวตายผิวจะเหลืองผู้หญิงสาวคนนี้ อายุยังวัยรุ่นนอนตายเหมือนคนนอนหลับเลยถ้าผิวไม่เหลืองก็ไม่รู้ว่าตาย(ทีหลังพอรับศพพ่อจะเสร็จเจอพี่สาวเด็กคนนี้มากับพี่เขยร้องไห้มากๆ เด็กสาวคนนี้กินยาฆ่าตัวตาย ที่เรารู้เพราะไปถามพ่อเพื่อน ที่เค้าก็สังเกตศพนี้เช่นกัน)เราก็ไปมองศพเละๆ ประเภทรถชนตายเปื้อนเลือดมองแล้วสยองเลือดเลอะทั้งนั้นมองไปมองมาเอาหน้าขึ้นฟ้า นึกถึงเรื่องงานศพคือพยายามไม่มองศพอีก พ่อเพื่อนก็ยังไม่มาซักทีไม่มีเก้าอี้ให้นั่งไม่รู้จะหลบไปทางไหนและอีกอย่างคือ อยากรับศพคุณพ่อไปวัดเร็วๆ เรามารอคิวตั้งแต่เช้า คนเยอะถ้าเราหายไป จนท.ก็อาจไม่ช่วยนำศพออกต้องรอถึงตอนเย็นคงแย่ เรารอถึง 12.30 น. จนท.เข็นร่างคุณพ่อออกมาที่เขาให้เรารอเพราะว่าจะให้เรายืนยันว่าใช่พ่อของเราไหมเขากลัวเข็นมาผิดศพคุณพ่อเราเหมือนคนนอนหลับแบบหลับสนิทเลยดูไม่เหมือนคนตายแม้แต่นิดเดียวก็เอาเสื้อผ้าชุดโปรดคุณพ่อให้เค้าสวมและก็นำร่างบรรจุโลง เราก็ช่วยกันยกใส่จุดธูปเชิญวิญญาณนั่งรถกะบะนำไปวัดต่อไปวันนั้นกว่าจะสวดพระอภิธรรมเสร็จวันแรก เหนื่อยมากนอนตอนสี่ทุ่มกว่า หลับไปฝันว่ามีคนไม่รู้จักมาหามากมาย ชายหญิงเยอะแยะมาคุยมาทักทาย พอเวลาผ่านไปในฝัน..ไปนึกถึง..ศพที่วางกองไว้เต็มในฝันจึงเห็นศพเยอะแยะไปหมดจนสะดุ้งตื่นฝันแบบนี้ 3 คืน ช่วงงานศพคุณพ่อไปเล่าให้คุณแม่ฟังคุณแม่เล่าให้พระในวัดที่จัดงานศพท่านรดน้ำมนต์ให้และให้แผ่เมตตาเยอะๆถามญาติๆผู้ใหญ่ บอกว่าคนตายที่สถาบันตามมาอาจจะมาขอให้ช่วยทำบุญให้เขาก็แปลกครับ..พอรดน้ำมนต์ก็ไม่ฝันเห็นอีกทำบุญแผ่เมตตาให้พวกเขาก็ไม่เจอฝันแบบรังควาญแบบนี้