เมื่อหมูแพง! ก็ต้องหันมาทานเนื้อจระเข้แทน คนไทยต้องกินหลากหลายตามที่ท่านนายกเคยกล่าวแนะนำ.??
เมื่อหมูแพงก็ได้เวลาของน้อนเมื่อถึงเวลาที่คนไทยต้องกินหลากหลาย!
ในยุคที่หมูวัตถุดิบหลักในการทำอาหารของคนส่วนใหญ่มีราคาแพงทั้งราคายังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนเริ่มหันมามองหาวัตถุดิบชนิดอื่นในการทำอาหารแทนไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อวัว ปลา อาหารทะเลและที่กำลังเป็นที่นิยมและถูกพูดถึงอย่างมากคือ “เนื้อจระเข้” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งโปรตีนทางเลือกที่น่าสนใจ
โดยก่อนหน้านี้เนื้อจระเข้ยังไม่เป็นที่นิยมสำหรับคนไทยมากนัก เนื่องจากจระเข้เป็นสัตว์ดุร้ายทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมนำเนื้อจระเข้มารับประทานแต่เนื้อจระเข้นั้นได้รับความนิยมอย่างมากในแถบทวีปยุโรปรวมถึงประเทศจีน
ประโยชน์ของเนื้อจระเข้
จระเข้ถือได้ว่าเป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่มีสรรพคุณค่อนข้างมาก เรียกได้ว่ามีสรรพคุณตั้งแต่หัวจรดหาง สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งด้านการบริโภคไปจนถึงการนำไปแปรรูปเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ
เนื้อจระเข้
เนื้อจระเข้เป็นเนื้อชนิดหนึ่งที่ให้โปรตีนสูงและมีไขมันต่ำ คอเลสเตอรอลน้อย รวมถึงมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายชนิด ทั้งยังดีต่อหัวใจและระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกาย บริเวณหนังจระเข้ยังมีเพคตินและคอลลาเจนสูงซึ่งมีความเชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และสำหรับบริเวณเนื้อจระเข้ที่มีราคาแพงที่สุดและถือได้ว่าเป็นเนื้อช่วงที่อร่อยที่สุดคือ “บ้องตันหรือบริเวณท่อนหาง” ลักษณะเนื้อจะคล้ายเนื้อหมูและเนื้อไก่แต่จะมีความนุ่มและหนึบกว่า อีกทั้งยังเป็นช่วงเนื้อที่ให้โปรตีนสูงสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นผัด ทอด ต้ม แกง ปิ้ง ย่างหรือทำเนื้อแดดเดียว
เลือดจระเข้
สำหรับเลือดจระเข้จะไม่นิยมนำมาทำอาหารแต่จะเน้นไปที่การปรุงยา เนื่องจากมีสรรพคุณทางยาสูงโดยเฉพาะแพทย์แผนจีนที่ยกให้เลือดจระเข้เป็นสุดยอดของคุณประโยชน์ เมื่อนำมาผสมกับยาสมุนไพรจีนบางชนิดจะช่วยรักษาโรคได้หลากหลาย เช่น โรคหอบหืด การปรับสมดุลร่างกาย เสริมสร้างธาตุเหล็ก ไปจนถึงการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรค นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ระบุว่าเลือดจระเข้มีสรรพคุณในการช่วยรักษาโรคเบาหวาน เนื่องจากเลือดจระเข้มีสาร IGF-1 ที่ช่วยเปลี่ยนรูปน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานทำให้ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่เป็นแผลเรื้อรัง นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต บำรุงเซลล์ไข่และสเปิร์มให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และเลือดจระเข้ยังได้ถูกนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเวชสำอางเกี่ยวกับผิวพรรณ เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษของเลือดจระเข้คือมีคอลลาเจนสูง
เนื้อจระเข้มีอันตรายต่อร่างกายหรือไม่?
ถึงแม้เนื้อจระเข้จะมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์หลากหลาย เนื่องจากการเพาะเลี้ยงจระเข้อาจไม่มีการสัมผัสกับสารเคมีอันตราย แต่จระเข้จัดอยู่ในประเภทสัตว์เลื้อยคลานและเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจึงทำให้อาจมีแบคทีเรียปนเปื้อนได้ เช่นเชื้อซัลโมเนลลาที่ก่อให้เกิดท้องร่วง ไทฟอยด์ ความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ดังนั้นเพื่อการหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย ควรปรุงเนื้อจระเข้ให้สุกในทุกเมนูและงดการทานเนื้อจระเข้แบบกึ่งสุกกึ่งดิบเพราะอาจทำให้ได้รับเชื้อแบคทีเรียที่อาจปนเปื้อนมาในเนื้อจระเข้ได้




















