ประสบการณ์ห้องเช่าหลอน ในคืนที่เจ็ด
ประสบการณ์เรื่องเล่า ห้องเช่าหลอนนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเองเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ดิฉันเป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯกับสามีได้ประมาณ 7 - 8 ปี ด้วยเหตุผลส่วนตัวก็มีอันต้องย้ายออกจากกรุงเทพฯมาสมัครทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่ จ..อยุธยาดิฉันได้มาเช่าห้องอยู่ในซอยวัดโคกมะยมซึ่งห้องเช่านี้อยู่ห่างจากวัดโคกมะยม ไปเพียงแค่ 200 เมตร เท่านั้น และพี่เขยได้เช่าห้องอยู่ก่อนดิฉันมาเป็นปีแล้ว ห้องเช่านี้ติดกับถนนลักษณะเป็นห้องแถวยาวเป็นไม้ชั้นเดียวกั้นเป็นห้องๆแบ่งให้เช่า มีเพียงแค่ 2 หลัง
แต่ละหลังมี 6 ห้องเท่านั้น จริงๆแล้ว มองไปก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร เพราะมีรั้วรอบขอบชิดดี มีต้นไม้ให้ร่มเงาดูร่มรื่นและที่สำคัญบ้านของเจ้าของห้องเช่าก็อยู่ในรั้วเดียวกันส่วนด้านนอกติดกับประตูรั้วห้องเช่าก้อจะมีร้านค้าขายของชำเล็กๆเปิดขายอยู่ทั้งวัน เจ้าของร้านแกชื่อป้านวลซึ่งป้านวลก็เป็นญาติกันกับเจ้าของห้องเช่านั่นเอง ถัดไปก็เป็นบ้านของพี่นุชเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว พี่นุชแกอยู่กับสามี 2 คนไม่มีลูก
อ้อ ลืมบอกไป พี่นุชเค้าเป็นหลานของเจ้าของห้องเช่าที่ดิฉันพักอยู่นั่นแหละค่ะ ก็คือในระแวกนั้นจะเป็นญาติพี่น้องกันเกือบจะทั้งหมดพ่อพี่นุชเลิกกับแม่ไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนแม่พี่นุชก็เสียชีวิตไปได้ประมาณ 4 - 5 ปีที่แล้ว ซึ่งดิฉันก็รู้แค่นั้น "และนี่ก็คือ ที่มาของเรื่องหลอนที่ดิฉันได้ประสบพบเจอนั่นเอง ดิฉันได้ห้องเช่าที่ว่างอยู่หลังแรกเป็นห้องที่สาม ลักษณะห้องเช่าจะมีประตูทางเข้าด้านหน้าและจะมีประตูทางออกด้านหลังสำหรับออกไปซักผ้าล้างจานเมื่อเปิดประตูออกไปจะเห็นเป็นต้นมะม่วงปลูกเรียงกันดูร่มรื่น
ดิฉันกับสามีทำความสะอาดห้องเสร็จก็ขนของเข้ามาและจัดระเบียบภายในห้องเรียบร้อย กว่าจะเสร็จก็ใกล้จะพลบค่ำแล้ว เลยหุงหาอาหารรับประทานกัน เสร็จแล้วดิฉันกับสามีก็อาบน้ำเข้านอนและหลับไปด้วยความอ่อนเพลียพอรุ่งเช้าสามีก็มาขอกับดิฉันว่าจะกลับไปบวชที่ต่างจังหวัดสัก 1 เดือน เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง
ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมให้เขาไปแต่โดยดี จากวันที่สามีกลับต่างจังหวัดไปดิฉันต้องนอนอยู่ในห้องเช่าที่ไม่คุ้นเคยเพียงลำพัง "6 คืน แล้วซินะ ดิฉันบอกกับตัวเอง" และคืนนี้ก็เป็นคืนวันที่เจ็ดที่ดิฉันได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่ห้องเช่าแห่งนี้ ทุกอย่างก็เป็นปรกติเหมือนทุกๆวัน ดิฉันปิดล็อคประตูหน้าห้องหลังห้องเรียบร้อย กินข้าว อาบน้ำ และมานอนคว่ำอยู่บนที่นอนเอามือเท้าคางดูทีวี เหมือนเช่นเคย โดยปิดไฟในห้องหมดทุกดวง จะมีเพียงแสงสลัวๆจากทีวี และแสงไฟจากภายนอกส่องลอดเข้ามารำไรตามรอยแตกของไม้
ค่ำคืนวันนี้มีเสียงหมาหอนผิดปรกติตั้งแต่หัวค่ำ "ก็ห้องเช่าอยู่ใกล้วัด หมามันคงจะเห็นผีมั้ง มันเลยหอน" ดิฉันคิดในใจแบบหวาดกลัว ดิฉันนอนดูทีวีจนดึกราวๆใกล้เที่ยงคืน รู้สึกง่วง เลยกดปิดทีวีแล้วพลิกตัวกลับมานอนสภาพหงายหน้าขึ้น แต่แล้ว "ดิฉันก็ต้องตกใจสุดขีด" เมื่อสายตาพลันเหลือบขึ้นมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ปลายที่นอนด้านปลายเท้าของดิฉัน ใช่.สิ ประตูห้องด้านหน้าและด้านหลังปิดล็อคหมด เพราะดิฉันเป็นคนปิดเองกับมือ แล้วจู่ๆผู้หญิงคนนี้เข้ามาในห้องได้อย่างไร ? นี่คือภาพสดๆเห็นด้วยตาเปล่า ดิฉันไม่ได้ฝันไปแน่ๆ
ดิฉันตะลึงมอง อ้าปากค้าง อยู่อย่างนั้นไปชั่วขณะ ในความมืดสลัวของห้อง บริเวณรอบๆตัวของผู้หญิงคนนี้มีแสงเรืองๆ มองเห็นหน้า เสื้อผ้า ทรงผม รูปร่าง สีผิว ได้ชัดเจน สายตาของผู้หญิงคนนั้นกำลังจ้องมองมาที่ดิฉันเขม็ง ดิฉันจะอ้าปากร้องก็ร้องไม่ออก เหงื่อดิฉันเริ่มซึมออกมาตามหน้าผาก ความกลัวเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ดิฉันกลัวอย่างบอกไม่ถูก มือเย็นเฉียบ ดิฉันค่อยๆพยุงกายลุกขึ้นนั่งเหมือนคนหมดแรง พยามใช้มือขยี้ตาหลายครั้ง ภาพที่ดิฉันเห็น ยังคงอยู่เหมือนเดิม วินาทีนั้น ดิฉันตัดสินใจ หันหลังให้กับผู้หญิงคนนั้นแล้วสวดมนต์ทันที บทไหนเป็นบทไหนบ้างดิฉันก็จำไม่ได้ หลังจากสวดมนต์เสร็จ อาการตื่นเต้นตกใจ อาการสั่นกลัว ค่อยคลายลง เมื่อเริ่มควบคุมสติได้ ดิฉันค่อยๆหันกลับมาทางที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ "ไม่มีผู้หญิงคนนั้น"
มีแต่ความว่างเปล่า ดิฉันขนหัวลูกซู่ รีบล้มตัวลงนอน ใช้ผ้าห่มคลุมโปงทั้งตัว และหลับไปจนกระทั่งรุ่งเช้า ดิฉันจึงไปเล่าให้ป้านวลกับพี่นุชฟัง ทั้งสองคนถามถึงรูปพรรณสัณฐานจากดิฉันแล้วมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ป้านวลเลยบอกดิฉันว่า ที่ดิฉันเห็นคือแม่ของพี่นุชที่เสียชีวิตไปเมื่อ 4 -5 ปีที่แล้ว และบริเวณที่สร้างห้องเช่าเคยเป็นบ้านของแกมาก่อน หลังจากแกเสียชีวิตไปไม่มีใครเคยเห็นแม่พี่นุชเลย ป้านวลบอกว่า ดิฉันเห็นแม่พี่นุชเป็นคนแรกเค้าคงมาขอส่วนบุญจากดิฉัน ป้านวลบอกอย่างนั้น พอเช้ารุ่งขึ้นของวันถัดไปดิฉันจึงไปใส่บาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับแม่ของพี่นุช แต่ดิฉันก้อไม่ได้ย้ายออกไปจากห้องเช่าหลังนั้นหรอกนะคะ หลังจากทำบุญแล้วดิฉันก้อไม่เคยเจอแม่ของพี่นุชอีกเลย
อ้างอิงจาก: ความหลอนจากประสบการณ์และจินตนาการ