ให้จีวร.ฉันเพลแทน.???
จีวรฉันเพล
ท่านอาจารย์เซ็นอีซิว(อิคคิว) มีลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งเป็นขุนนาง ได้นิมนต์ท่านไปฉันเพลที่บ้าน
ท่านอาจารย์อีซิวไม่ค่อยสนใจรูปลักษณ์ภายนอกของตนเองนัก พอถึงช่วงเพลท่านจึงเดินทางไปที่บ้านของลูกศิษย์ด้วยจีวรปอน ๆ
เมื่อไปถึงประตูบ้าน คนเฝ้าประตูไม่ยอมให้ท่านเข้าไป ด้วยจีวรที่ขาดปอน เขาคิดว่าเป็นคงจะเป็นภิกษุจรจัด ไม่คิดว่าได้รับการนิมนต์มา
เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านอีซิวจึงเดินทางกลับไปที่วัด ผลัดเปลี่ยนจีวรชุดใหม่ สวมใส่เต็มยศเท่าที่ภิกษุพึงจะตกแต่งกายได้ แล้วเดินทางไปที่บ้านเศรษฐีอีกครั้ง คราวนี้คนเฝ้าประตูเปิดประตูต้อนรับด้วยความอ่อนน้อม
เมื่อถึงเวลารับภัตราหาร ท่านอีซิวเอาอาหารที่เศรษฐีถวายยัดใส่ลงไปในจีวรโดยไม่ได้ฉันเลยแม้แต่น้อย เศรษฐีเห็นดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ จึงได้เอ่ยขึ้นว่า
“หากท่านอาจารย์มีมารดารออยู่ที่บ้าน หรือคิดถึงสาธุชนที่คอยอยู่ที่วัด ก่อนท่านกลับวัด ข้าพเจ้าจะตระเตรียมอาหารไว้อีกชุดหนึ่ง สำหรับให้ท่านนำกลับไปด้วย ท่านอาจารย์อย่าได้นำอาหารเหล่านี้ใส่จีวรอีกเลย เชิญท่านฉันได้ตามสบาย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ท่านอีซิวจึงเอ่ยออกไปว่า
“ตอนแรกที่ข้ามาถึง คนเฝ้าประตูของท่านไม่ยอมให้ข้าเข้ามา เพราะข้าสวมจีวรขาดปะ เมื่อข้ากลับไปเปลี่ยนจีวรใหม่ชุดนี้มา คนเฝ้าประตูของท่านกลับยินดีต้อนรับข้าด้วยความอ่อนน้อม ข้าก็เลยคิดว่าท่านเชิญจีวรมาฉันเพล มิได้เชิญข้ามาฉันเพล ดังนั้น ข้าจึงนำอาหารที่ท่านถวาย ให้จีวรของข้าฉันแทน !”
@ นิทานเรื่องนี้ เหมือนเป็นการเย้ยหยันคนในสังคม ที่เน้นดูคนจากรูปลักษณ์เปลือกนอก จากอาภรณ์ที่สวมใส่ ต่อให้คน ๆ นั้นไม่ดีเพียงใดก็ตาม หากเขามั่งมีเงินทอง ผู้คนก็จะเคารพสรรเสริญ คนในปัจจุบัน จึงแสวงหาแต่ “ทรัพย์สมบัติภายนอก” แต่ไม่เน้น “คุณธรรมทรัพย์ภายใน”ต่างจากโบราณที่เคารพยำเกรงกันด้วยเพราะคุณธรรมความดีงาม











