ประวัติของเล่น "สังกะสี"
ประวัติของเล่นสังกะสี
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่หลงไหลกับของเล่นสังกะสีที่ดูมีมนต์ขลังละก็ จะบอกว่ามีคนมากมายทั่วโลกที่สะสม
ของเล่นอันคลาสสิกนี้เช่นเดียวกัน*โดยประวัติเริ่มต้นของเล่นสังกะสีนั้นเริ่มตั้งแต่ยุคประมาณปี 1800 ผู้ผลิตแรกๆนั้นเป็นบริษัทจาก
ประเทศเยอรมัน* โดยบริษัทที่มีชื่อเสียงได้แก่ Bing (1863) , Fleischman (1887),
Lehmann (1881), Gunthermann (1880) และ Marklin (1859) ซึ่่งบริษัทเหล่านี้ถือว่ามี
ความเป็นมาตรฐานสูงสำหรับอุตสาหกรรมสังกะสี ในเวลาต่อมา ของเล่นสังกะสียังคงความนิยม
อย่างต่อเนื่อง และมีบริษัทใหม่เกิดขึ้นมาเช่น Arnold (1906) , Tipp & Company (1912),
Schuco (1912) และ Levy (1920)
ส่วนที่ปรากฏที่ยุโรปพบข้อมูลที่โรงงาน Rossignol ในฝรั่งเศส และบริษัท Chad
Valley ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1823 ภายใต้ชื่อ Chad โดยถือเป็นช่วงรุ่งเรื่องเนื่องจากประชาชน
ชาวอังกฤษต่อต้านสินค้าของเยอรมัน *หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 บางบริษัทที่รู้จักกันดีของอังกฤษ
ได้แก่ Lines Brothers Limited (1919-1983) รู้จักกันในนาม Triang โดยผลิตทั้งของเล่น
สังกะสีไปจนถึงของเล่นไม้ และ Louis Marx บริษัทจากอเมริกา (1932-1961) โดยผลิตของ
เล่นแปลกๆมากมายรวมไปถึงของเล่นสังกะสีด้วย* หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมีบริษัททำของเล่น
พลาสติกเล็กๆ เป็นครั้งแรกได้แก่ Corgi’s ซึ่งนำเข้าไปในการผลิตประมาณปี 1956 แม้กระทั่ง
Brimtoy (1914 1932) ที่รวมกับบริษัม Wells กลายเป็น Wells-Brimtoy Limited ที่รู้จัก
กันดีในเรื่องของเล่นแปลกๆและมีคุณค่าในการเก็บสะสมมากในทุกวันนี้ เช่น Clockwork fish
(1954) , flying Superman (1957) dancing fairy Queen (1954) Mickey Mouse
drowing tutor (1955) เป็นต้น
ประวัติของเล่นสังกะสีญี่ปุ่น
ของเล่นสังกะสีญี่ปุ่นเกิดขึ้นครั้งแรกในยุคเมจิและไทโช โดยญี่ปุ่นถือว่าเป็นผู้ผลิตที่
สำคัญพอๆกับยุโรปจนกระทั่งปลายปี 1940 ที่ของเล่นสังกะสีเริ่มมีราคาสูง ประมาณปี 1874-1875
แผ่นสังกะสีได้นำเข้าส่วนใหญ่สำหรับ oilcans อย่างไรก็ตาม ของเล่นสังกะสีจำนวนมากถูกนำเข้า
จากเยอรมัน ในเริ่มแรกนั้นธุรกิจของเล่นสังกะสีญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ดีนัก จนกระทั่งเริ่มมีการใช้ใบแนะนำ
สินค้าบวกกับเทคโนโลยีจากเยอรมัน *ในที่สุดญี่ปุ่นก็เป็นศูนย์กลางผลิตของเล่นสังกะสี โดยทิ้งห่าง
เยอรมันไว้จากผลพวงของสงครามโลกครั้งที่ 1*
มีบริษัทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นในเรื่องของเล่นสังกะสีญี่ปุ่นมากมาย หนึ่งในนั้นได้แก่
Marusan Co.Ltd ก่อตั้งขึ้นในปี 1923 โดยเป็นผู้นำในการสร้างของเล่นสังกะสีที่เป็นเครื่องจักร
กลและใช้แบตเตอรี่ ในการทำงาน ซึ่งยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้โดยผ่านพ้นสงครามโลกมาได้
*Masudaya ใช้โลโก้ M-T หรือ Modern Toys นอกจากนี้ยังมี Nomura ใช้โลโก้ TM เป็นอีก
หนึ่งที่ใหญ่ที่สุดหลังสงครามโลก* Yoshiya (1950-1970) ที่รู้จักกันในนาม Kobe Yoko Ltd.
เป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่หลังสงครามโลกเช่นเดียวกัน โดยโลโก้ที่ใช้คือ KO ลักษณะพิเศษเป็น
ของเล่นที่มีส่วนของเครื่องจักรเป็นส่วนใหญ่หรือแบบไขลานที่ เป็นแฟนซี และยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับ
หุ่นยนต์ Robby the Robot นั่นเอง *Bandai เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ทำของเล่นญี่ปุ่นโดยประสบความ
สำเร็จและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้* Masuo (1950) ใช้ชื่อการค้าว่า Masuya โดยผลิตที่รู้จักในของ
เล่นสังกะสีแบบเครื่องกลโดยใช้โลโก้ SM หรือ MS
NK (Sankei) 1950 เป็นที่รู้จักในนาม Sankei ช่วงเล็กๆช่วงหนึ่งของญี่ปุ่น โดยทำ
การเลียนแบบของหุ่นยนต์ประเภท Zoomer แต่ก็ผลิตของเล่นของตัวเองด้วย Sanyo เป็นอีกบริษัท
ของเล่นสังกะสีแต่เป็นที่รู้จักน้อยโดยผลิตในช่วงปี 1950 และหายไปหลังจากนั้น ส่วนใหญ่เป็นของ
เล่นราคาถูก *Yonezawa ก่อตั้งในปี 1950 รู้จักในนาม Y หรือ Yone เป็นอีกหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดและมี
ความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก*ใน การผลิตของเล่นของเขา โดยของเล่นอื่นๆของเขามีความ
โดดเด่นภายใต้นาม STS ซึ่ง Yonezawa เป็นผู้ผลิตของเล่นมากมายที่ทำงานด้วยจักรกลและใช้
แบตเตอรี่ในการทำงาน เริ่มตั้งแต่ต้นปี 1950 จนถึงช่วงต้นปี 1970 บริษัทที่ประสบความสำเร็จมาก
ที่สุดอีกคนนึงคือ*Horikawa (1959) เป็นที่เคารพและยอมรับจากนักสะสมทั่วโลก โดยของเล่น
สังกะสีเด่นๆของเขาก็คือหุ่นยนต์นักบินอวกาศแบบใช้แบตเตอรี่ (robot/astronaut) ซึ่งประสบ
ความสำเร็จเป็นอย่างมาก* บริษัท Naito Shoten ภายใต้แบรนด์ AN หรือ AHI เชื่อกันว่าพวก
เขาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Nomura ในปี 1960 Noguchi จัดตั้งเมื่อปี 1960 ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็น
ส่วนหนึ่งของบริษัท Nomura เช่นเดียวกัน เป็นที่รู้จักด้วยคำว่า N ผลงานเด่นๆที่เป็น limited
edition ได้แก่ หุ่นยนต์อวกาศไขลาน นั่นเอง และบริษัท Ohta (1950-1960) ภายใต้ชื่อ K ใช้
ช่วงเวลาสั้นทำคอลเล็คชั่นหุ่นสังกะสีเล็กๆของเขา
ยุคเปลี่ยนแปลงของเล่นสังกะสี
หลังจากนั้นญี่ปุ่นยังคงผลิตของเล่นสังกะสีคุณภาพดีอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง หลัง
สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น*ของ เล่นสังกะสี ของเล่น
ไขลาน รวมไปถึง Celluloid ในขณะนั้นของเล่นก็ได้พุ่งเป้าไปยังต่างประเทศโดยใช้เครื่องหมาย
“Foreign” แทนคำว่า “Made in Japan” เพื่อความสะดวกต่อทัศนคติต่างประเทศหลังสงคราม
โลก* จากอ้างอิง ชาวอเมริกันมีทัศนคติเชิงลบต่อสินค้าญี่ปุ่น และอังกฤษต่อต้านสินค้าเยอรมัน หนึ่ง
ในปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อของเล่นสังกะสีญี่ปุ่นเริ่มในปี 1947 อุตสาหกรรมของเล่นสังกะสีได้รับสิทธิใน
การส่งออก ในปี 1948 ที่ได้รับความนิยมได้แก่ของเล่นจำพวกรถดับเพลิง รถยนต์ ยานพาหนะต่างๆ
ในปี 1955 เป็นของเล่นอิเล็คทรอนิกส์ และแปดปีต่อมา 60% ของการส่งออกของเล่นได้แก่ของเล่น
สังกะสี อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 1960 ของเล่นสังกะสีค่อยๆเลือนหายไป โดยเปลี่ยน
เป็นพลาสติกและของเล่นอัลลอยเข้ามาแทน
*เมื่อวันเวลาผ่านไป ของเล่นสังกะสีเริ่มเข้ามามีบทบาทในยุคของอินเตอร์เนต
ยุคแห่งการค้นคว้าเพื่อสำรวจประวัติศาสตร์อันยาวนานโดยใช้ของเล่นสังกะสี เป็นสื่อ ของเล่น
สังกะสียังคงความสนุกสนาน มีมนต์สเน่ห์และน่าตื่นเต้น เหมาะแก่การสะสมเพื่อไปถึงรุ่นหลังต่อไป*
sungkasee.com /*(ประวัติของเล่นสังกะสีทั่วโลก)*/
https://www.facebook.com/2007331706232995/posts/2124750447824453/














