ทัพเรือ ส่ง 4 เรือรบ สู้ คราบน้ำมัน เรือหลวงสงขลา -เรือหลวงแสมสาร -เรือหลวงมันนอก -เรือหลวงบางระจัน พร้อม “ยาน Seafox-i “
ทัพเรือ ส่ง 4 เรือรบ
สู้ คราบน้ำมัน
เรือหลวงสงขลา -เรือหลวงแสมสาร -เรือหลวงมันนอก -เรือหลวงบางระจัน
พร้อม “ยาน Seafox-i “
เตรียมพร้อม สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน จาก เรือ ป.อันดามัน2 บรรทุกน้ำมัน 5 แสนลิตร จม กลางอ่าวไทย
วาง Boom ทุ่นกักเก็บน้ำมัน
เตรียมพร้อม สาร Dispersant
เผย “เรือหลวงบางระจัน”
พร้อม ยาน seafox-i ยานล่าทำลายทุ่นระเบิด
mine disposal vehicle:MDV
ปรับมาใช้ในการค้นหา พิสูจน์ทราบ ได้
พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ทัพเรือภาคที่ 1 ส่ง “เรือหลวงสงขลา เรือหลวงมันนอก และเรือหลวงแสมสาร “เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ตามที่พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการผ่าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ
พร้อมทั้งจัดเตรียมตู้คอนเทนเนอร์บรรจุอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน จำนวน 2 ตู้ กับให้หมู่เรือสำรวจของกองเรือทุนระเบิด กองเรือยุทธการ โดยใช้เรือหลวงบางระจัน
ซึ่งมี ยาน seafox-i ยานล่าทำลายทุ่นระเบิด(mine disposal vehicle:MDV) มีขีดความสามารถในการค้นหา พิสูจน์ทราบและทำลายทุ่นระเบิด สามารถปรับมาใช้ในภารกิจนี้ได้
กองทัพเรือ มีความพร้อมทั้งยุทโธปกรณ์และกำลังพล ในการขจัดคราบน้ำมันในทะเล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการฝึกซ้อมกันเป็นประจำทุกปี
หลังจาก เกิดเหตุ เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล ชื่อ ป. อันดามัน 2 ซึ่งจอดทอดสมอและอับปางลง บริเวณ ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล โดยเรือ บรรทุกน้ำมัน 5 แสน ลิตร
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้ประชุมร่วมกับกรมเจ้าท่า ทัพเรือภาคที่ 1 กรมอุทกศาสตร์ กรมควบคุมมลพิษ และเจ้าของบริษัทเรือได้ข้อสรุปจากการประชุมว่า จากการประเมินคราบน้ำมันที่รั่วไหล จากการตรวจสอบพบว่ามีความรุนแรงระดับ 1 น้ำมันรั่วไหล มีขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน
และหาก น้ำมันรั่วไหลเพิ่มมากขึ้น เป็นขนาดกลาง ตั้งแต่ 20-1,000 ตัน ซึ่งเข้าสู่ความรุนแรงระดับ 2 (Tier 2) จะประสานให้กองทัพเรือจัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ รับผิดชอบกำหนดแผนและยุทธวิธีในการขจัดคราบน้ำมัน
สำหรับในส่วนของกรมเจ้าท่า ได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.เดินเรือ มาตรา 121 ออกประกาศ โดยสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดชุมพร แจ้งให้เรือต่างๆ ระมัดระวังในการเดินเรือในบริเวณที่มีเรืออับปาง
รวมทั้งแจ้งให้บริษัทไทยแหลมทองค้าน้ำมันประมงจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ ป.อันดามัน2 ห้ามใช้เรือและดำเนินการกู้เรืออับปางโดยเร็วโดยจะทำการเก็บกู้น้ำมัน (ดีเซล) เป็นลำดับแรก ภายใน 7 วัน
หลังจากนั้นจะให้กู้เรือภายในเวลา 15 วัน รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน ประกอบด้วย ทุ่นกักเก็บน้ำมัน (Boom) ความยาว 800 เมตร และสาร Dispersant จำนวน 700 ลิตร
นอกจากนั้น ทางกรมควบคุมมลพิษ และกรมทรัพยากรธรรมชาติและชายฝั่ง ได้มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุและเตรียมการรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในกรณีคราบน้ำมันรั่วไหลเข้าชายฝั่ง

