ซาวน่าไหน ประทับใจสุดๆ
ถามผมว่า...ไปซาวน่ามาก็หลายที่ ซาวน่าที่ไหนประทับใจสุดๆ และประทับใจเพราะอะไร คำตอบของผม อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใครก็ได้ เพราะความประทับใจมันเป็นความรู้สึกที่ว่า มันดีสำหรับเราก็พอ
ซาวน่าแรกที่ผมประทับใจมากที่สุดในความเห็นของผม คือ ฟารอส ซาวน่า สาขาสะพานควาย ในช่วงปี 2547-2549 ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมไปเที่ยวที่นี่บ่อยที่สุด อาจจะเพราะเดินทางง่ายจากบ้านผม เข้าซอยไปไม่ลึกเท่าไหร่ แถมแถวนั้นก็มีร้านอาหารโต้รุ่งเยอะ ออกมาก็หาอะไรทานได้ง่าย ทำให้ดูไม่เปลี่ยวมากมาย ในช่วงปีที่ไปบ่อยๆนั้น เป็นช่วงที่ซาวน่าบูมถึงขีดสุดทีเดียว เกย์ไปเที่ยวซาวน่านี้เยอะมากๆ ไม่มีเกย์คนไหนไม่รู้จักที่นี่ คนมากจนแทบไม่มีที่ยืน นี่พูดเรื่องจริง เกย์ทุกสารทิศมารวมตัวกันที่นี่ที่เดียว มีทั้งหุ่นดีบ้างไม่ดีบ้าง ซาวน่านี้ดังที่สุดในยุคนั้นแล้วครับ อาจจะเพราะมีเหล้าเลี้ยงและเปิดถึงเช้าด้วย การที่มีคนมาเที่ยวเยอะคืนละมากกว่า 300 คน แบบนี้ ทำให้ผมได้เจอเกย์มากมายหลายคนที่นี่ ได้เพื่อนหลายคนที่นี่ บางคนก็ประทับใจมาก บางคนก็เฉยๆ เพิ่งได้รู้ว่าเกย์หลายคนใช้ซาวน่านี้มานอนจนถึงเช้าค่อยกลับบ้านเยอะมากเลย โดยเฉพาะเกย์ที่มาจากต่างจังหวัด ความอลังการของที่นี่ นอกจากอยู่ที่จำนวนคนที่เยอะมากๆแล้ว ยังอยู่ที่ห้องมืดที่มีกิจกรรมกันตลอดทั้งคืน ปัจจุบันซาวน่านี้น่าจะปิดกิจการแล้ว จำได้ว่าในช่วงหลังมันโทรมจนยากที่จะเยียวยา บันไดผุพัง สกปรก แถมน่ากลัวเอามากๆ ไม่เหมือนเดิมในช่วงปีที่ผมเคยไปมาแล้ว
ซาวน่าที่สอง คือ มัฟฟิล ซาวน่า ลาดพร้าว ในช่วงปี 2547-2549 ซึ่งเป็นยุคทองของซาวน่า ซาวน่านี้ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้วเช่นกัน ในสมัยนั้นเป็นซาวน่าที่มีจุดเด่นมากในเรื่องของความสะอาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับที่แรกแล้ว เทียบกันไม่ได้เลย ซาวน่านี้มีข้อด้อยตรงที่เข้าซอยไปลึกพอควร และค่อนข้างเปลี่ยวมาก แต่พอไปถึงหน้าซาวน่า คนอย่างเยอะ เกย์ที่มาเที่ยวที่นี่ จะต่างจากเกย์ที่ไปที่แรกนิดนึง ตรงที่ มีความเป็นหนุ่มออฟฟิสมากกว่า อายุส่วนใหญ่จะเป็นคนวัยทำงานราวๆรุ่น 25-35 เยอะสุดๆ รูปร่างจึงดูดีกว่า เพราะหลายคนเล่นฟิตเนสหลังเลิกงานแล้วมาต่อกันที่นี่ ในขณะที่ที่แรกนั้น จะเป็นคนแนวบ้านๆ ทั่วไปมากกว่า ส่วนตัวแล้ว ชอบที่นี่มากกว่าในเรื่องสถานที่ แต่ก็เดินทางไกลและยากขึ้นด้วย จึงไม่ได้มาเที่ยวบ่อยๆ
ซาวน่าที่สาม คือ โอเบลิสต์ ทองหล่อ ในช่วงก่อนปี 2540 เป็นซาวน่าในตำนานที่ผมเคยบอกในตอนหนึ่งแล้ว ว่าเป็น ซาวน่าในยุคแรกๆของเมืองไทย สถานที่ดีงามทุกอย่าง ดูหรูหรา เลิศอลังการ เป็นตึกทรงทันสมัยสูง 11 ชั้น ตกแต่งแนวยุโรปแนวคลาสสิค มีรูปปั้นเทพเจ้ากรีกโรมันประดับประดาในซาวน่าตั้งแต่ทางเข้า เปิดเพลงคลอคลาสสิคเอามากๆ มีลิฟท์ 1 ตัว ใช้โดยสารขึ้นลง ห้องอาหารที่นี่ บรรยากาศดีมาก แต่ที่นั่งน้อย คนก็ดูดีมากๆ หุ่นมีกล้ามหน้าอกกันทุกคน หน้าตาก็ดูดีกว่า 2 ซาวน่าแรกอย่างเทียบกันไม่ได้เลย อาจจะเป็นเพราะซาวน่านี้วางเป้าหมายไว้เป็นซาวน่าระดับบน ราคาค่าเข้าจะแพงกว่าที่อื่นในยุคนั้น คนก็เลยดีงามตามไปด้วย เหตุผลที่ประทับใจที่นี่มาก คือว่า สมัยนั้นผมมีแฟนคนแรกแล้ว ก็พาแฟนมาเที่ยวแบบพักผ่อนที่นี่เป็นประจำทุกอาทิตย์เลย เพราะชอบบรรยากาศ แต่ไม่ได้ไปยุ่งกับคนอื่นเลยนะ บรรยากาศมันโรแมนติคมากๆ ชอบลงแช่ในอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ที่มีอยู่ถึง 2 ชั้น ชอบห้องซาวน่า ชอบห้องสตีม มันดีงามไปหมดทุกห้อง ห้องส่วนตัวก็สะอาดมากๆ คนที่มาเที่ยวที่นี่สุดยอดยิ่งกว่าที่ไหนๆ ผมเคยเจอเพื่อนสมัยเรียนที่แอบมาเที่ยว ก็มาเจอที่นี่ แถมที่นี่ยังเป็นซาวน่าที่แรกในชีวิตที่ผมรู้จักด้วย ปัจจุบันปิดกิจการไปนานมากๆแล้ว
ซาวน่าที่สี่ คือ เฮ้าส์ ออฟ เมลล์ ถนนสิริมังคลาจารย์ จังหวัดเชียงใหม่ ซาวน่านี้ผมไปในช่วงปี 2539-2540 ในช่วงนั้นจังหวัดเชียงใหม่ยังมีกลิ่นอายของล้านนามาก ในตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงหน้าหนาวนั้น อากาศหนาวมาก ไม่ได้ร้อนแบบทุกวันนี้ แม้ซาวน่าที่นี่จะเป็นซาวน่าไม่ใหญ่นัก เป็นเรือนทรงไทยล้านนาเล็กๆ แต่บรรยากาศมันได้ ผมก็ได้พบเจอเกย์เชียงใหม่ดีๆ ที่นี่ ได้นั่งคุยกันแบบเพื่อนอย่างเปิดอก เพราะผมเองก็มาจากกรุงเทพ รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของคนเชียงใหม่ แต่ได้มาที่นี่แค่ 2 ครั้งเองในช่วงปีนั้น แต่ก็ประทับใจทั้ง 2 ครั้งเลย ปัจจุบันผมคิดว่าซาวน่านี้น่าจะยังเปิดบริการอยู่ หรือปิดไปแล้วผมก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ไปเที่ยวนานมากๆ
ซาวน่าที่สุดท้ายที่ผมชอบ คือ 24 ไคคัน ตั้งอยู่ย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหตุผลที่ประทับใจที่นี่ เพราะว่า ผมไปเที่ยวกับแฟนผม 2 คน คนที่ยังคบอยู่ปัจจุบันนี่แหละ ตอนนั้นผมไปในช่วงปี 2560 ไม่นานนี้เอง ซาวน่านี้ สถานที่ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นเทียบกับซาวน่าในเมืองไทยเลย แต่สิ่งที่โดดเด่นคือ แฟนผมและผมเองเป็นคนชอบคนญี่ปุ่นมาก ทุกอย่างมันก็เลยดูดีในบรรยากาศรอบๆข้างไปหมด เกย์ญี่ปุ่นไม่ค่อยแสดงออก ดูสุภาพ ธรรมเนียมของคนญี่ปุ่น การอาบน้ำร่วมกันในที่สาธารณะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทุกอย่างมันก็เลยไม่มีการอายกัน ยอมรับเลยว่า เกย์ไทยอย่างผมกับแฟนที่เป็นเกย์ไทย มีขนาดไซส์ที่ใหญ่โตกว่าเกย์ญี่ปุ่นมากเลย จนมีเกย์ญี่ปุ่นบางคนพยายามเข้ามาคุยด้วย ความประทับใจมันเลยอยู่ตรงนี้ ผมไปเที่ยวที่นี่ 2 ครั้งในปีเดียวกัน ในช่วงหน้าหนาว กับช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ความหนาวทำให้การเข้าซาวน่าและอบตัวร้อนๆ มันสบายตัวเอามากๆ กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็เกือบๆ เที่ยงคืน หลับเป็นตายเลย