ระวัง โรคเหี่ยวเขียว หรือเหง้าเน่า (เชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum) ในมันฝรั่ง
ระวัง โรคเหี่ยวเขียว หรือเหง้าเน่า (เชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum) ในมันฝรั่ง
สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศเย็นกับมีลมแรงและอุณหภูมิจะลดลง เตือนผู้ปลูกมันฝรั่ง ในระยะ ทุกระยะการเจริญเติบโต รับมือโรคเหี่ยวเขียว หรือเหง้าเน่า (เชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum)
๑. อาการของพืชส่วนที่อยู่ใต้ดิน หัวมันฝรั่งนิ่ม บริเวณตาหน่อแฉะมีสีน้ำตาล เมื่อบีบหัวจะพบของเหลวข้นๆ สีขาวขุ่น ไหลออกมา ถ้าเป็นรุนแรงจะทำให้หัวเน่า
๒. อาการของพืชส่วนที่อยู่เหนือดิน อาการเริ่มแรกต้นพืชสลด ยอด กิ่ง และใบเหี่ยวลู่ ใบล่างมีสีเหลืองซีด จากนั้นอาการเหี่ยวจะขยายและเหี่ยวทั้งต้น เมื่อตัดขวางลำต้นแล้วเอาปลายข้างที่ตัดจุ่มในน้ำจะมีของเหลวข้นๆ สีขาวขุ่น ไหลออกมา
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
๑. ใช้หัวพันธุ์ที่ปลอดโรค
๒. ใช้มีดที่สะอาดผ่าหัวพันธุ์ และจุ่มแอลกอฮอล์ ๗๐% หรือคลอร็อกซ์ ๑๐% ทุกครั้งที่ผ่าหัวเพื่อฆ่าเชื้อที่ติดมากับมีดไม่ให้แพร่ไปสู่หัวพันธุ์อื่นๆ
๓. ไถดินตากแดด ๒-๓ ครั้งก่อนปลูก
๔. เมื่อพบต้นเหี่ยว ให้ขุดต้นนำไปเผาทำลาย โรยปูนขาว หรือคลอรีนผงผสมน้ำ ๒-๕% ราดให้ทั่วหลุมเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ
๕. หลังเก็บเกี่ยว นำส่วนต่างๆ ของพืชที่เป็นโรคและ หัวมันฝรั่งที่เสีย ไปเผาทำลาย
๖. ปลูกพืชหมุนเวียนที่ไม่ใช่พืชอาศัยของเชื้อ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด เพื่อตัดวงจรชีวิตของเชื้อ
๗. กำจัดวัชพืชที่เป็นพืชอาศัยในแปลงและรอบแปลงปลูก เช่น หญ้ายาง สาบแร้งสาบกา สาบเสือ หญ้าลิ้นงู หญ้าละออง และกะเม็ง