ยอดผู้เสียชีวิตจากการจลาจลในคาซัคสถานเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า200
ยอดผู้เสียชีวิตจากการจลาจลในคาซัคสถานเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า200
เจ้าหน้าที่ของคาซัคสถานเมื่อวันที่ 15 มกราคมได้เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิต
จากการจลาจลในประเทศนี้เป็น 225 เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับที่ประกาศก่อนหน้านี้
“ในช่วงภาวะฉุกเฉิน ศพของ 225 คนถูกย้ายไปยังห้องเก็บศพ
โดย 19 คนเป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและบุคลากรทางทหาร”
Serik Shalabayev หัวหน้าแผนกดำเนินคดีอาญาของสำนักงานกล่าว งานแถลงข่าว
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายคือ "โจรติดอาวุธที่เข้าร่วมการโจมตีของผู้ก่อการร้าย"
ชาลาบาเยฟกล่าวเสริม “น่าเสียดายที่พลเรือนตกเป็นเหยื่อของการก่อการร้ายด้วย”
ก่อนหน้านี้ คาซัคสถานรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 50 คนในการจลาจล
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ช่องโทรเลขของรัฐบาลประกาศยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 164 ราย แต่ข้อมูลนี้ถูกถอนกลับอย่างรวดเร็ว
การประท้วงปะทุขึ้นในคาซัคสถานตั้งแต่ต้นเดือนเพื่อประท้วงการตัดสินใจของรัฐบาล
ที่จะหยุดการให้เงินอุดหนุนก๊าซธรรมชาติเหลว (LPG) ทำให้ราคาเชื้อเพลิงนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในหลายพื้นที่
จากนั้นการประท้วงก็แพร่กระจายไปยังท้องถิ่นต่างๆ อย่างรวดเร็ว
และทำให้เกิดการจลาจลในอัลมาตี ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
การปะทะกันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนระหว่างกองกำลังความมั่นคงและผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล
ในคาซัคสถานกระตุ้นให้ประธานาธิบดีKassym-Jomart Tokayev ประกาศภาวะฉุกเฉิน
และขอความช่วยเหลือจากองค์กรสนธิสัญญาความมั่นคง (CSTO) กลุ่มทหารที่นำโดยรัสเซีย
มีผู้ถูกจับกุมเกือบ 8,000 รายในข้อหาสอบปากคำในการสอบสวนแยกกันมากกว่า 100 คดี ตามการประมาณการเบื้องต้น
ความเสียหายของทรัพย์สินมีมูลค่าเกือบ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ
ธุรกิจและธนาคารมากกว่า 100 แห่งถูกโจมตี ปล้นสะดม และยานพาหนะมากกว่า 400 คันถูกไฟไหม้
เมื่อวันที่ 10 มกราคม คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของคาซัคสถานประกาศว่าสถานการณ์ในประเทศมีเสถียรภาพ
และอยู่ภายใต้การควบคุม และกองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายได้ทำให้ภัยคุกคามเป็นกลาง
สิ่งอำนวยความสะดวกทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั้งหมด
พร้อมด้วยคลังอาวุธ จะปลอดภัยหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ที่ประเทศ
ตกอยู่ในความโกลาหลเนื่องจากการประท้วงและการจลาจลในวงกว้าง