วัคซีนไทยมีปัญหา หรือแค่ด้อยค่าเพื่อประโยชน์ทางการเมือง
นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2020 จนมาถึงการริเริ่มการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าประเด็นของวัคซีนนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในทางการเมือง ซึ่งหลายฝ่ายก็หยิบยกเหตุผล ข้อสงสัยต่างๆ มาวิพากษ์วิจารณ์ ตอบโต้กันไปมา
ต้องยอมรับว่าข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์หลายข้อก็มีเหตุผล แต่สำหรับประเทศไทยวันนี้เรามีการด้อยค่าวัคซีนบางตัวมากเกินไปหรือไม่ และการด้อยค่านั้นอาจทำไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยมิได้สนใจผลประโยชน์ที่แท้จริงอันได้จากการฉีดวัคซีน
ถ้ามองในแง่ความสงสัยนั้นอาจจะต้องพิจารณาหลายเรื่อง เช่น กรณี “แทงม้าตัวเดียว” ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าก็เปิดฉากวิพากษ์แผนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล โดยข้อสังเกตเกี่ยวกับแผนการจัดหาวัคซีนของไทยว่าเป็นไปอย่างล่าช้าและมีทางเลือกจำกัดหรือที่เขาเรียกว่า "แทงม้าตัวเดียว" ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนแบบ Viral Vector ทั้งการซื้อและการผลิตผ่านบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด แทนที่จะเปิดเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ ที่ผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ โดยเฉพาะที่ทันสมัยอย่าง mRNA
ซึ่งฝ่ายรัฐบาลก็พยายามออกมาโต้แย้งข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่ได้มีการ “แทงม้าตัวเดียว” แต่ด้วยความล่าช้า ปัญหา และข้อสงสัยหลายอย่าง ก็ดูเหมือนว่าประชาชนจะตั้งคำถามกับการแทงม้าตัวเดียวไปเรียบร้อยแล้ว
รวมไปถึงการเข้ามาของวัคซีนจากประเทศจีน “ซิโนแวค” ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ยอมรับว่าวัคซีนจากประเทศจีนนั้นไม่ได้อยู่ในแผนงานวัคซีนของไทยมาก่อน แต่ด้วยปัญหาการขาดแคลนวัคซีนก็ทำให้ “ซิโนแวค” กลายเป็นวัคซีนที่ไทยจัดหามาเป็นจำนวนมากและกลายเป็นวัคซีนหลักของไทยไปโดยปริยาย ซึ่ง “ซิโนแวค” ก็เป็นวัคซีนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้านคุณภาพและถูกด้อยค่ามากที่สุดทั้งจากนักการเมือง และประชาชนจำนวนมาก โดยอ้างอิงจากเทคโนโลยีเก่าแบบเชื้อตาย และประสิทธิภาพที่ดูด้อยกว่าวัคซีนตัวอื่นๆ ค่อนข้างมาก
อีกปัญหาหนึ่งที่รัฐนั้นตอบคำถามได้ยากมากก็คือ การไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX ของประเทศไทย ที่นายธนาธร ก็ออกมาเปิดประเด็นเรื่องนี้ โดยตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่าเหตุใดจึงไม่ยอมเข้าร่วมโครงการ COVAX ซึ่งรัฐบาลไทยตอบคำถามดังกล่าวว่า จากการเจรจานั้นพบว่าประเทศไทยไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับวัคซีนฟรีจากโครงการ COVAX แต่จำเป็นต้องซื้อเอง อีกทั้งสามารถเลือกวัคซีนจากผู้ผลิตรายใดได้ มีความไม่แน่นอนทั้งชนิด จำนวน และราคา รวมทั้งต้องจ่ายเงินล่วงหน้า การตัดสินใจของรัฐบาลไทยทำให้ไทยกลายเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ COVAX ในขณะที่โครงการ COVAX ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 มาให้อาเซียนรวมกว่า 32 ล้านโดสในปี 2021
อย่างไรก็ตามล่าสุดประเด็นเกี่ยวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กลับกลายเป็นผู้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เสียเอง หลังจากสำนักข่าวต่างๆ เปิดเผยข้อมูลว่านายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า โดยเข็มแรกฉีดวันที่ 1 กค 64 เข็มที่ 2 ฉีดวันที่ 22 ธค 64 วัคซีนเข็มแรกเป็นวัคซีนล็อตแรกที่ผลิตโดยบริษัท Siam Bioscience ฉีดที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ เวลา 19.15 น ทำให้เกิดการตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใดนายธนาธร จึงเข้ารับการฉีดวัคซีนชนิดนี้ ทั้งที่ตนเองและกลุ่มการเมืองฝ่ายตนเอง ระบุมาตลอดว่าวัคซีนดังกล่าวเป็นการแทงม้าตัวเดียว อีกทั้งไม่ใช่เทคโนโลยีขั้นสูงแบบ mRNA ซึ่งวัคซีนเหล่านี้ถูกกลุ่มการเมืองด้อยค่ามาโดยตลอด อีกทั้งช่วงเวลาที่นายธนาธรเข้ารับวัคซีน ยังเป็นนอกเวลาทำการ และเป็นช่วงที่กลุ่มเสี่ยงควรได้รับวัคซีนก่อน ซึ่งนายธนาธรยังไม่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในเวลานั้นอีกด้วย
เช่นเดียวกับวัคซีนแบบเชื้อตายจากประเทศจีน “ซิโนแวค” ที่ถูกกลุ่มการเมืองด้อยค่าเป็นอย่างมากถึงประสิทธิภาพ และผลข้างเคียง จนทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าฉีดวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้ แม้จะมีคำยืนยันจากบุคลากรทางการแพทย์ว่ามีความปลอดภัยและใช้งานได้จากทั่วโลก ซึ่งรายงานวิจัยจากทั่วโลกปัจจุบันก็ให้การยอมรับว่าวัคซีนเชื้อตายแบบ “ซิโนแวค” แม้จะมีประสิทธิภาพที่ไม่สูงหากเทียบกับวัคซีนประเภท mRNA โดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ประสิทธิภาพของ “ซิโนแวค” ก็มีเพียงพอใจการป้องกันการป่วยหนัก และการเสียชีวิต
สิ่งที่สังคมไทยควรตระหนักก็คือ ข้อเท็จจริงว่าวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้ามาทุกประเภทนั้นก็ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) อีกทั้งผ่านมาตรฐานของ อย. ไทย จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตได้ การวิพากษ์วิจารณ์จึงควรอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง มิใช่การด้อยค่าวัคซีนเพื่อโจมตีรัฐบาล หรือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อย่าลืมว่าวัคซีนนั้นถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยที่รุนแรง และเสียชีวิต การด้อยค่าวัคซีนหรือสร้างความหวาดกลัวโดยไม่ใช้ข้อมูลที่เป็นจริงทั้งหมดก็ถือเป็นการเอาชีวิตของประชาชนเข้ามาเสี่ยง