มีเฮ!! รัฐบาล สั่งห้ามเก็บค่าทวงหนี้ เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยาน
3 ม.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยปัจจุบันพบว่า ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้ อ และไม่มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลธุรกรรมเช่าซื้ อเป็นการเฉพาะ ทำให้เกิดการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลโดยคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ จึงได้เข้าไปแก้ไขปัญห าดังกล่าว เบื้องต้น ได้มีการออกประกาศ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการทวงหนี้เพื่อคุ้มครองลูกหนี้ ไม่ให้ถูกเก็บเงินในการทวงถามหนี้เช่าซื้ อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เกินความจำเป็น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 14 กันย ายน ที่ผ่านมา สาระสำคัญ คือ
1. อัตราค่าทวงถามหนี้กรณีทั่วไปรวมจำนำทะเบียนให้คิดไม่เกิน 50 บ าทต่อรอบการทวงถามกรณีค้างชำระ 1 งวดและคิดไม่เกิน 100 บ าทต่อรอบการทวงถามกรณีค้างชำระมากกว่า 1 งวด
2. อัตราค่าทวงถามหนี้สำหรับปฏิบัติการลงพื้นที่ติดตามถามหนี้ฯ คิดไม่เกิน 400 บ าทต่อรอบการทวงถาม และเก็บต่อเมื่อลูกหนี้ค้างชำระมากกว่า 1 งวด
3. กำหนดให้ไม่มีการเก็บค่าทวงถามหนี้ กรณีค่างวดที่ถึงกำหนดชำระต่ำกว่า 1,000 บ าท เพื่อคุ้มครองประชาชนรายย่อยที่จ่ายค่างวดจำนวนน้อยๆ
เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมายให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือนนั้น น.ส.รัชดา กล่ าวว่า จะประกอบด้วย สามเรื่องด้วยกันคือ
1. การกำหนดหน่วยงานเพื่อเข้ามากำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อหรือธุรกรรมที่มีลักษณะคล้ายสินเชื่อเพื่อให้ธุรกิจเช่าซื้ อรถยนต์และรถจักรย านยนต์มีหน่วยงานกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ
2. พิจารณามาตรการดูแลประชาชนที่เช่าซื้ อรถยนต์และรถจักรย านยนต์ที่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของสคบ. เช่น คนขับรถแท็กซี่ คนขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เช่าซื้ อรถมอเตอร์ไซค์เกษตรกรที่เช่าซื้ อรถไถมาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน ซึ่งปัจจุบันคนกลุ่มนี้กำลังประสบปัญห าและไม่ได้รับความเป็นธรรม
3. จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญห าจากกรณีเช่าซื้ อรถและการทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรมเพื่อให้มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน
-ข่าว