หลักปฏิบัติสังขารุเปกขาญาณ (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 😎 : การวางจิตให้เป็นกลางต่อสังขารทั้งปวง /////
หลักปฏิบัติสังขารุเปกขาญาณ (วิปัสสนาญาณขั้นที่ : การวางจิตให้เป็นกลางต่อสังขารทั้งปวง
/////
หลวงปู่พุทธะอิสระสอนว่า การวางจิตให้เป็นกลางต่อสังขารทั้งปวง
ต้องเริ่มจากการฝึกจิตไม่ให้กระเพื่อมไปตามตาเห็น หูฟัง จมูกดม ลิ้นรับ กายสัมผัส และอารมณ์ที่ปรากฏ
ในขั้นนี้ทุกเรื่องจะเป็นวิปัสสนาหมด
ถ้าผู้นั้นมีสติสัมปชัญญะ
รู้สึกตัวในกาย ในเวทนา ในจิต ในธรรม
การรู้สึกตัว มีจิตรู้ มีตัวรู้ มีท่านผู้รู้ จะทำให้ทุกเรื่องเป็นวิปัสสนาหมด คือเป็นสภาวะที่ผู้นั้นรู้เท่าทัน
ใช้สติควบคุมทุกเรื่องที่มีอยู่
สติคือจิตรู้ที่ต้องทำให้มันเจริญเติบโตและตั้งมั่น
แต่ต้องไม่ไปเพ่งมัน เพราะการเพ่งสติเป็นวิปัสสนูปกิเลสอย่างหนึ่ง
การวางจิตให้เป็นกลาง คือ การไม่ปรุงแต่ง ไม่ยึดถือ และไม่ทำให้มันมีตัวตน
การจะเจริญวิปัสสนาญาณขั้นที่ 8 หรือ สังขารุเปกขาญาณ
ผู้นั้นต้องฝึกวางจิตให้เป็นกลางจนเป็นนิสัยให้ได้
ผู้นั้นต้องอยู่กับความเป็นกลางนั้น
ทำให้ความเป็นกลางคงที่สม่ำเสมอ
อย่าให้ความเป็นกลางกระเพื่อม เลื่อนหลุดไปไหน
โดยมีตัวรู้อยู่กับความเป็นกลางนั้น
ดังนั้น การวางจิตอยู่กับความเป็นกลาง จึงต้องไม่มีอะไร ไม่ได้อะไร และไม่เหลืออะไร
แค่รู้ในความเป็นกลางเฉยๆเท่านั้น
นี่คือหลักการฝึกปฏิบัติวิปัสสนาญาณขั้นที่ 8 ในวิปัสสนาญาณ 9
แต่กว่าที่คนผู้หนึ่งพร้อมที่จะฝึกวิปัสสนาญาณขั้นที่ 8 นี้ได้ คนผู้นั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณมาทั้งชีวิตก่อน โดยผ่านการฝึกลมปราณกรรมฐาน (วิชาลม 7 ฐาน) มาอย่างยาวนานเกินสิบปีก่อน
เพราะการที่คนเราจะเปลี่ยนนิสัยถาวรได้จะต้องฝึกลมปราณกรรมฐานติดต่อกัน 12 ปีเต็ม
เพื่อให้โครงสร้างทางจิตและระดับจิตของผู้นั้นพร้อมที่จะอยู่ในวิปัสสนาญาณขั้นที่ 8 จนเป็นนิสัยความเคยชินในชีวิตประจำวันของผู้นั้นได้เสียก่อน
สุวินัย ภรณวลัย
*****
หมายเหตุ : วิปัสสนาญาณทั้ง 9 ประกอบด้วย
มีปัญญา เห็นการเกิดดับของสังขารทั้งปวง (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 1)
มีปัญญา เห็นการเสื่อมไปของสังขารทั้งปวง (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 2)
มีปัญญา เห็นความไม่ปลอดภัยแห่งสังขารทั้งปวง (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 3)
มีปัญญา เห็นโทษภัยแห่งสังขารทั้งปวง (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 4)
มี นิพพิทาญาณ เกิดความเบื่อหน่าย (วิปัสสนาญาณขั้นที่5)
ขวนขวายที่จะพ้นจากโทษภัยแห่งสังขารทั้งปวง (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 6)
หาทาง เจอทาง (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 7)
ปฏิบัติตามทาง เห็นชัดตามความเป็นจริง วางจิตเป็นกลางต่อสังขารการปรุงแต่งทั้งปวง (วิปัสสนาญาณขั้นที่
เห็นทุกขอริยสัจ (วิปัสสนาญาณขั้นที่ 9)
จากนั้นเกิดโคตรภูญาณ (ญาณข้ามภพชาติ) และมรรคญาณกลายเป็นอริยบุคคลในที่สุด








