ประวัติศาสตร์สังคมยุโรปยุคกลางไม่ได้มีแต่คนผิวขาว การยัดบทให้คนดำในหนังย้อนยุคสมัยนี้มันเลยห่วย..

ประวัติศาสตร์สังคมยุโรปยุคกลางไม่ได้มีแต่คนผิวขาว การยัดบทให้คนดำในหนังย้อนยุคสมัยนี้มันเลยห่วย

เรื่องของยุโรปมีแต่คนขาว และก็แบ่งชนชั้นเหยียดสีผิว คนดำต้องเป็นทาสนี่เป็นเรื่องสมัยใหม่นะ การแบ่งกันผ่านสีผิวเพิ่งจะมีเอาตอนยุคเรเรสซองค์ตอนเรเรสซองค์ตอนปลาย ยุควิคตอเรียมากกว่ายุคกลาง

แล้วเอาจริงๆ กลุ่มคนที่ตกเป็นทาสมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรปก็ไม่ใช่คนดำด้วย แต่เป็นชาว slave ซึ่งคนพวกนี้ถูกจับขายเป็นทาสมากซะจนชื่อเผ่าพันธ์ตัวเองกลายเป็นคำว่า ทาส ในมากมายหลายภาษา และพวกนี้เป็นคนผิวขาวจากบริเวณรัสเซีย

ในยุคกลางยุโรปคนที่มีผิวดำผิวเข้ม ไม่ใช่คนแปลก ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความด้อยกว่า เส้นทางการค้าระหว่างยุโรป-แอฟริกา-เอเชียมีความหลากหลายทั้งสินค้าวัฒนธรรมและผู้คน

สมัยนั้นคนดำมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์และสังคมยุโรปเป็นปกติ

ทีนี้กำลังจะคิดสินะ ว่า โอ้ว ที่พวกฮอลลีวูด เน็ตฟลิกส์ยัดบทให้คนดำในหนังย้อนยุคช่วงนี้มันก็สมจริงสินะ

ไม่เลย ตรงนี้แหละมาถึงส่วนที่เชี่ย

มันเป็นแค่การยัดเยียดแค่ผิวเผิน พวกนั้นแค่การเสนอคนขาวผิวดำเท่านั้น
คนดำยุคนั้นเขาก็มาจากต่างที่ต่างถิ่น มีวัฒนธรรมภาษาของตัวเอง นำมาแลกเปลี่ยนกับสังคมแดนไกล

การจับพวกเขามาสักแต่ใส่วัฒนธรรมที่ไม่ได้มาจากบรรพบุรุษของเขามันเป็นการทำลายประวัติศาสตร์ กลืนกินวัฒนธรรม

ตัวอย่างที่แย่มากๆ เช่น แอนน์ โบลีนผิวดำ นอกจากนักแสดงผิวดำแล้วมีอะไรที่เป็นวัฒนธรรมของแอฟริกา-ตะวันออกบ้าง

นั่นล่ะความห่วยแตกของพวก WOKE แต่ผิวเผินนั่นแหละ พวกนี้เอาจริงๆมันก็เหยียด ลองไปถามหาพวกนี้ให้ลองลิสต์ รายชื่อ อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ลือชื่อ ในแอฟริกา-ตะวันออกกลาง ก่อนยุคล่าอาณานิคมมาสัก 5 ชื่อสิ

ในสายตาคนพวกนั้นเหยียดคนผิวดำว่าด้อยกว่าทางวัฒนธรรม โดยไม่พยายามศึกษา พวกนี้จะมองเหยียดว่าคนดำยุคก่อนมีแต่พวกคนเถื่อน แก้ผ้า ใส่ผ้าเตี่ยว อุงก้าๆ แต่แบบเดียว เลยต้องใช้วิธีย้อมสีใส่สกินเอา

จริงๆแล้ว แอฟริกาไม่ใช่ดินแดนคนเถื่อน และไม่ได้มีแต่สังคมชนเผ่าเล็กๆอย่างที่คนสมัยใหม่ส่วนมากเข้าใจ

เอาล่ะยกตัวอย่างแย่ๆไปแล้วขอยกตัวอย่างที่มันค่อยดีขึ้นมาหน่อยละกันจากหนังโรบิน ฮู้ดเมื่อปี 1991 (สามสิบปีแล้วเรอะ)

ที่อย่างน้อยก็นำเสนอคนดำในสื่อได้ดีกว่ายุคนี้เพราะมอร์แกนฟรีแมนไม่ใช่แค่คนขาวผิวดำ ถึงแม้บทจะดัดแปลงจากบทตัวละครยุโรป แต่ไม่ได้มักง่ายจับย้อมสกิน

นอกจากเป็นคนผิวดำแล้ว มอร์แกน ฟรีแมนยังนำเสนอวัฒนธรรมที่ต่างออกไปจากคนขาวในเรื่องด้วย นั่นแหละการนำเสนอความหลากหลายในหนังย้อนยุคมันควรจะเป็นแบบนั้น ถึงจะตรงกับบริบทของคนดำในยุคกลาง

ต่างสีผิว ต่างภาษา ต่างที่มา ต่างวัฒนธรรม แต่อยู่ร่วมกันได้