กางเกงยีนส์สุดฮิต ที่ไม่เคยตกเทรนด์ และ 6 วิธี เลือกซื้อกางเกงยีนส์

เคล็ดลับ ดีๆ 6 วิธี เลือกซื้อกางเกงยีนส์
พูดถึงกางเกงยีนส์เป็นอะไรที่คลาสสิคมากๆคือไม่มีวันที่จะตกอันดับแฟชั่นกางเกงยีนส์เป็นกางเกงที่ใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะ สาวน้อย สาวแก่ แม่ม่ายเด็ก หนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่วัยชรา ก็ใส่กางเกงยีนส์ได้ทุกคน

หนุ่มๆสาวๆหลายคนเชื่อเลยว่าในตู้เสื้อผ้า หลายๆคนคงจะมีเสื้อผ้าให้เลือกเยอะแยะ หลากหลายสไตล์ และสิ่งที่ทุกคนต้องมีนั่นคือ "กางเกงยีนส์" วันนี้จึงมีทริคและเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกกางเกงยีนส์มาฝากทุกคนครับ...

👖1. ซื้อกางเกงยีนส์ไซส์เล็กกว่าเอวจริง
ถ้าเกิดเราใส่กางเกงที่เล็กกว่าเอวมักจะทำให้รู้สึกอึดอัด และถ้าเกิดหลวมเกินก็จะทำให้ดูไม่คล่องตัว กางเกงดูโหลดๆ หลุดตูดดูไม่ค่อยดี รวมทั้งคนใส่ก็จะไม่ค่อยมั่นใจ แต่มันไม่ใช่สำหรับกางเกงยีนส์ เพราะยีนส์ถูกถักทอเป็นแบบ Twill ทำให้ผ้า Cotton สามารถยืดออกได้ 1-2 นิ้ว เป็นอย่างน้อย

ดังนั้น ควรซื้อกางเกงยีนส์ให้เล็กกว่าเอว 1-2 ไซส์ เพราะเมื่อเวลามันยืดออก มันจะดูสวยงาม และพอดีตัวคุณ

🩳2. เลือกกางเกงยีนส์ทรงเข้ารูป
ทรงเข้ารูปไม่ได้หมายความว่ากางเกงจะแน่นฟิตรัดทุกส่วนของร่างกายแบบหายใจไม่ออกขนาดนั้น

แต่แค่ให้มันเก็บขา ลดขนาดให้ดูเล็กลง ไม่ให้ดูหลวมโพรกเวลาใส่ หรือที่เรียกว่า "สกินนี่" ซึ่งมันไม่ได้รัดแบบกางเกงเลกกิ้ง แต่จะเป็นทรงเล็กๆ เข้ารูป ตั้งแต่โคนขาลงมาถึงปลายขา แต่ไม่รัด

👖3. เลือกกางเกงยีนส์สีเข้มเสมอ
หลายคนคงมีกางเกงยีนส์ตัวโปรดที่สีออกสว่าง หรือถูกฟอกมาเรียบร้อยแล้ว จำไว้ว่า กางเกงยีนส์เหล่านั้นไม่เหมาะต่อการแต่งเพื่อเข้าออฟฟิศ

เลือกกางเกงยีนส์ที่สีเข้ม หรือที่เรียกว่า ผ้าดิบ หรือจะเป็นสีดำก็ได้ และพยายามใส่กางเกงที่มีความยาวพอดีข้อเท้า เพื่อเสริมความชิคให้กับตัวเอง กองมากเกินไปจะดูไม่ประณีต ใส่พอดีๆ ถึงจะดูเท่ และมีสไตล์ และควรเลือกกางเกงที่ช่วงขาไม่ใหญ่เกินไป ไม่เล็กจนรัด พอดีๆและที่สำคัญอย่าใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ มันไม่ได้ดูดีเลยสำหรับการเข้าออฟฟิศไปทำงานด้วยกางเกงยีนส์ขาดๆ

👗4. หาป้ายส่วนประกอบเนื้อผ้าก่อนซื้อ
กางเกงยีนส์ส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของผ้ายืดอยู่ โดยปกติจะเป็น Lycra ประมาณ 2% เพื่อช่วยให้ทรงเข้ารูป และมีความยืดหยุ่น

ทำให้สามารถใส่ได้ทั้งวัน แต่ควรระวัง หากคุณหยิบแล้วเจอองค์ประกอบอย่างอื่นนอกจาก Cotton มากเกินไป ผ้าจะไม่ระบายอากาศ เวลาคุณใส่ คุณจะร้อนโดยไม่รู้สาเหตุ ดังนั้น ควรเลือกกางเกงยีนส์ที่มีส่วนประกอบของ Cotton เยอะหน่อย

🩳5. ดูกระเป๋าหลังก่อนซื้อ
บางครั้งรายละเอียดเส้นด้าย หรือลวดลายแพรวพราวที่ปรากฏบนกระเป๋าหลัง ก็สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อผู้ใส่ได้ ลองมองหากางเกงที่มีลายน้อยหน่อย และควรเลือกกางเกงยีนส์ที่กระเป๋าหลังไม่ใหญ่จนเกินไป หรือยาวเกินไป เพราะจะทำให้เหมือนเราใส่กางเกงหลุดตูดตลอดเวลา

👬6. อย่าไปกังวลมากนักเกี่ยวกับรูปร่างของคุณ ปกติมักจะมีคนพูดเสมอว่า การเลือกทรงของกางเกงยีนส์ต้องอิงรูปร่างไว้ก่อน เชื่อเถอะว่าพวกเราดูดีได้กับยีนส์เกือบทุกทรง แต่จะเลือกใส่ทรงไหนก็ต้องคิดก่อนว่าเราจะใส่ยีนส์ตัวนี้ไปที่ไหน ไปทำอะไร เช่น ถ้าเราอยากออกไปเดินเล่นรอบๆ บ้าน ก็ควรเลือกทรง Classic หรือทรงขาตรง จะได้ทำกิจกรรมได้เยอะหน่อย แต่ถ้าจะไปงาน หรือออกไปเที่ยวจีบสาว ก็ควรเลือกทรงที่เข้ารูปนิดนึง สิ่งที่ผู้ชายควรสนใจเป็นอย่างแรก และอย่างเดียว คือ ชอบหรือไม่ชอบ และใส่แล้วพอดีหรือไม่พอดี ข้อควรระวัง คือ อย่าใส่กางเกงยีนส์ที่หลวมเกินไป หรือรัดติ้วเกินไป ก็แค่นั้นเอง

**ศัพท์ควรรู้คู่กางเกงยีนส์**
1. Rise ความยาวระหว่างเป้ากางเกงถึงขอบเอว เพื่อดูว่าเอวสูง หรือเอวต่ำ
2. Whiskering ลายทางริ้วบนกางเกงยีนส์ เพื่ออำพรางจุดด้อยบริเวณสะโพก
3. Inseam รอยตะเข็บด้านข้าง ตั้งแต่เป้าจนถึงปลายขากางเกง
4. Wash สีสัน และวิธีการฟอกกางเกงยีนส์
5. Boot-cut ทรงกางเกงที่เข้ารูปบริเวณสะโพก แล้วค่อยๆ บานออกใต้หัวเข่า

ข้อมูลเพิ่มเติม
ยีนส์ (อังกฤษ: jeans) คือกางเกงที่ทำจากผ้าฝ้ายหยาบ แต่เพื่อความหลากหลายมักใช้ผ้าที่มีริ้ว เดิมทีผลิตเพื่อการทำงาน แต่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นเริ่มจากทศวรรษที่ 50 มีแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง ลีวายส์ แรงเลอร์ เป็นต้น ทุกวันนี้ยีนส์ถือว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่ได้รับความนิยมทั่วทุกมุมโลก มีหลากหลายรูปแบบและสีสัน

ประวัติกางเกง ยีนส์
ยีนส์เริ่มมีครั้งแรกที่เมืองเจโนวา เมืองท่าของประเทศอิตาลี โดยจุดประสงค์เพื่อกะลาสีชาวเจนัว ไว้ใส่เพื่อรองรับต่อสภาพแห้งหรือเปียกได้ดี และสามารถถกขากางเกงได้ขณะอยู่บนดาดฟ้าเรือ

👖ผ้ายีนส์ที่ทำขึ้นมาในนครเจโนอา กลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งทางประเทศอังกฤษสั่งนำเข้าผ้าชนิดนี้ ด้วยความทึ่งในความทนทาน และเรียกผ้านี้รวมๆว่า Fustian ซึ่งแปลว่าผ้าสีเนื้อหยาบ ต่อมาระหว่างที่เรือขนส่งสินค้าเดินทางจากอิตาลีมาอังกฤษ ต้องผ่านประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคนเมืองเรียกเมืองเจนัวว่า แชน (Gênes) และเรียกสินค้าจากเจนัวว่า ชีน (Jene) ซึ่งภายหลังเปลี่ยนมาเป็น ชอง (Jean) พอมาถึงอังกฤษ ชาวอังกฤษจะอ่านคำว่า Jean ว่า จีน หรือยีน เช่นเดียวกับคนอเมริกันที่พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเมื่อคนนำผ้ายีนส์นี้ไปตัดกางเกง ก็ต้องเป็นคำที่เติม s จึงเรียกว่า Jeans ยีนส์

🤓จนกระทั่งราวปี ค.ศ. 1850 หรือ พ.ศ. 2393 ลีวาย สเตราส์ (Levi Strauss) ชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ที่ซานฟรานซิสโกได้ผลิตกางเกงยีนส์ในชื่อ ลีวายส์ โดยตั้งชื่อกางเกงยีนส์ตามชื่อผ้าฝ้าย โดยผ้าฝ้ายนำมาจากผู้ผลิตที่เมืองเจนัว (Genoa) แต่ในภาพรวมแล้วเหมือนกัน