ทำไม ? คนญี่ปุ่นถึงชอบ"ฆ่าตัวตาย"
#ทำไมคนญี่ปุ่นจำนวนมากถึงฆ่าตัวตาย
เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในห้องส่วนตัว หรือในภูเขาอันห่างไกลออกไป ในสถานที่ซึ่งไม่สามารถมีใครมาพบเห็นได้ แต่ที่แย่ที่สุด คือ การฆ่าตัวตายในที่สาธารณะ เช่น ในรถไฟ
และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ รถไฟชินคันเซ็นที่ไม่เคยมีอุบัติเหตุมาก่อน ก็ได้ถูกทำให้มีมลทินเสียแล้วและได้ส่งผลกระทบต่อบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องอีกด้วย ซึ่งในเหตุการณ์ฆ่าตัวตายในชินคันเซ็นที่โด่งดังก็มีผู้โดยสารที่ไม่เกี่ยวข้องหนึ่งคนเสียชีวิตไปจากการขาดอากาศหายใจ
เป็นสิ่งที่น่าสงสัยว่าทำไมประเทศที่งดงามอย่างญี่ปุ่นถึงมีผู้คนมากมายเลือกที่จะจบชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย?..
ซึ่งเท่าที่ค้นหาข้อมูลมาจึงพอจะทราบได้ว่าการฆ่าตัวตาย ที่มีมากในญี่ปุ่นนั้น น่าจะมีสาเหตุหลักๆมาจากเหตุผลดังนี้
~ การกล่าวเกินจริง ~
การฆ่าตัวตายนั้นเกิดขึ้นในทุกที่ เรื่องนี้เป็นความจริงอันแสนเศร้าที่ว่า บนโลกที่แสนงดงามใบนี้มีผู้คนบางกลุ่มที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างกระเสือกกระสนและสุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะยอมแพ้และจบชีวิตตัวเองด้วยการพักผ่อนไปตลอดกาล ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “จิซัทสึ” หรือการฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วโลก
ในความเป็นจริงประเทศญี่ปุ่นไม่ได้เป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ แต่ในความจริงแล้วญี่ปุ่นอยู่ที่อันดับ 16 จากอันดับของประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดของโลกจำนวน 25 ประเทศ ซึ่งอันดับที่ 5 คือ ลิทัวเนีย, อันดับที่ 4 คือ ศรีลังกา, อันดับที่ 3 คือ เกาหลีใต้, อันดับที่ 2 คือ เกาหลีเหนือ และอันดับแรกคือ กายอานา จะเห็นได้ว่าประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ติดอยู่ในสิบอันดับ รายชื่อประเทศที่มีการฆ่าตัวตายสูงสุดเลยด้วยซ้ำ
แล้วเพราะอะไรเราจึงมีความเข้าใจว่าประเทศญี่ปุ่น คือ ประเทศที่มีการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลก?..
ตรงนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากการที่อัตราอาชญากรรมของญี่ปุ่นนั้นต่ำมาก ทำให้สำนักข่าวต้องนำเสนอเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากการฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่นแทน
ส่วนในประเทศอื่น ๆ มีปัญหาที่สำคัญมากกว่าในสังคมจึงทำให้การฆ่าตัวตายถูกลดความสำคัญลงไป
นอกจากนี้สื่อมวลชนถือว่ามีอิทธิพลและบทบาทสำคัญต่อปัญหาในสังคมเพราะยิ่งสื่อกล่าวถึงประเด็นของปัญหาใดมากที่สุด ปัญหานั้นก็ยิ่งดูสำคัญมากขึ้น และดูเหมือนจะมากกว่าในความเป็นจริงอีกด้วย
~ ทัศนคติทางสังคม ~
เราอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสังคนญี่ปุ่น โดยคนญี่ปุ่นมักจะปฏิบัติตามกฎได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาได้ถูกปลูกฝังไว้ในวัฒนธรรม “อาตาริไม” ซึ่งในภาษาไทยมีความหมายว่า เป็นธรรมดา, ตามสมควร, และตามที่คาดไว้
ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติไปโดยธรรมชาติหรือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำ เช่น ทิ้งขยะในสถานที่ที่เหมาะสม การต่อแถวและรอคิว รับผิดชอบด้วยการลาออกจากงานเมื่อกระทำผิดร้ายแรง หรือแม้แต่การจบชีวิตของตัวเองเมื่อแบกรับปัญหาไม่ไหวอีกแล้ว
ทั้งนี้ยังรวมถึงปัญหาของตนเองที่ไปกระทบหรือสร้างปัญหาให้ผู้อื่นอีกด้วย เช่น
เมื่อประธานบริษัทล้มเหลวในการทำหน้าที่ของเขาและทำให้บริษัทตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย หรือ ผู้สูงวัยที่ทรมานกับโรคร้ายและจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากครอบครัวของเขา พวกเขาไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับคนอื่น ดังนั้นจึงเลือกที่จะจบชีวิตของพวกเขาลงไปเสียเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อไป
นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังให้คุณค่ากับความซื่อสัตย์และความถูกต้อง ทำให้ในบางครั้งเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอาย หรือเกิดเรื่องอื้อฉาวที่สร้างมลทินให้กับชื่อเสียงของพวกเขา มันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือและไม่มีทางที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ ซึ่งหนทางเดียวที่จะหนีไปได้ ก็คือ “การหายตัวไปจากโลก” อย่างไรก็ตามนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฉพาะบางคนเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนญี่ปุ่นทุกคน
~ เรื่องของเกียรติยศในประวัติศาสตร์ ~
ในสังคมญี่ปุ่นโบราณ มีพิธีกรรมการฆ่าตัวตายด้วยการคว้านท้องที่เรียกว่า “เซ็ปปุกุ” และยังถูกเรียกอีกชื่อว่า “ฮาราคีรี” ซึ่งกระทำโดยซามูไรญี่ปุ่น
เซ็ปปุกุมีความหมายตรงตัวว่า “การคว้านท้อง” ซามูไรที่ทำการเซ็ปปุกุนั้น โดยปกติจะใช้มีดเล่มเล็กหรือกริชที่เรียกว่า “ตันโตะ” คว้านไปที่ท้องของพวกเขา ในขณะที่ซามูไรอีกคนหนึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเหลือพวกเขาด้วยการตัดศีรษะให้ขาด
พิธีกรรมการฆ่าตัวตายอันสูงส่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิถีบูชิโดของซามูไร การทำเซ็ปปุกุที่ใช้เป็นการลงโทษประหารชีวิตถูกล้มเลิกในปี 1873 แต่ถึงกระนั้นการทำเซ็ปปุกุโดยสมัครใจก็ยังคงดำเนินต่อไปในกลุ่มทหาร โดยพฤติกรรมนี้ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากการโฆษณาชวนเชื่อ จึงค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่า นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมคนญี่ปุ่นบางคนยังคิดฆ่าตัวตายกันอยู่
การฆ่าตัวตายอยู่ในวัฒนธรรม อยู่ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น สุดท้ายนี้เราก็ไม่สามารถบอกสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงฆ่าตัวตายได้ เพราะบุคคลที่จะสามารถบอกเราได้ดีที่สุด คือ คนที่ได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถบอกเหตุผลกับเราได้ นอกเสียจากว่าเราจะไปพบและคุยกับพวกเขาในโลกหลังความตายเท่านั้น
อ้างอิงจาก: Japan info,วิกิพีเดีย,กุเกิ้ล
















