"เผาศพ"ยังไงให้โลกจำ ??

เผาศพยังไงให้โลกจำ 8 สาวรำวงรุ่นเดอะเอวลั่น เต้นสุดเหวี่ยงส่งวิญญาณเพื่อนหน้าเมรุ

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 บริเวณเมรุ...มีพิธีฌาปนกิจนาง...อายุ 64 ปี โดยมีเพื่อนบ้านมาร่วมงานเผาศพเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะอดีตนาง...เป็นสาวรำวงมาก่อน จึงมักแต่งชุดนางรำประจำ โดยได้รวบรวมสมัครพรรคพวกที่ชื่นชอบในเสียงเพลงตั้งเป็นคณะรำวงชาวบ้านมีประมาณ 10 กว่าคน โดยไม่คิดค่าตัวใดๆ เมื่อเสียชีวิตลงเพื่อนร่วมวงจึงแต่งชุดเก่งมาเต้นหน้าโลงศพเป็นการส่งวิญญาณไปสู่สุคติ ทั้งนี้ได้รับการอนุเคราะห์เครื่องขยายเสียงจากกู้ภัย จัดรถแห่เคลื่อนที่มาบริการถึงหน้าเมรุ

โดยนางรำทั้ง 8 ชีวิตร่วมใจกันเต้นให้เพื่อนทั้งหมด 3 เพลง ล้วนเป็นเพลงที่มีจังหวะจะโคนสนุกสนาน ส่ายเอวเด้งหน้าเด้งหลังกันสุดเหวี่ยงตามท่วงทำนอง แม้แต่ผู้มาเผาศพยังอดไม่ได้ที่จะปรบมือคลอไปด้วย บางคนก็ถ่ายวีดีโอส่งไปให้ญาติหรือเพื่อนชมทางออนไลน์ หลังจบเพลงก็นำศพเข้าเตาเผา โดยเพื่อนนางรำเชื่อว่าผู้ตายจะมีความสุขที่ได้เห็นพวกตนมาเต้นที่หน้าโลงเป็นการส่งวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย

(เคย)สาวรำวง

อายุ65กลับมาเป็นสาวรำวง
มาใส่กระโจงว๊อบๆแวมๆ
เพลิงสลัวมัวเหมือนคืนเดือนแรม
อะร้าแอร่มอยู่รอบเมรุเต้นรำ
เกิดแก่เจ็บตายคือเรื่องบุญกรรม
จากการกระทำในชีวิตก่อนตาย
มีผู้เฒ่ากำลังเฝ้ารอ
โทรเรียกสายย่อ ยายเฝ้ารอใจบุญหนุนส่ง
จึงบอกแปดสาวที่นัดมาเป็นสาวรำวง
จึงบอก(เคย)สาวที่วัดมาเป็นสาวรำวง
ก็คงเข้าใจแล้วว่า
ยายสาวใจกล้ากระโดดขึ้นบนเวที

จากวันนี้คงไม่มีวันพบเจอ
แล้วใครยืนเหม่อคราวโบกมืออำลา

ปรี๊ดดด!!

ปล.พอได้ยิ้มขำๆตามข่าวนะครับอย่าคิดมากให้เครียด คงมองเห็นความรักระหว่างเพื่อนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ได้เห็นแล้วว่ามีจริงๆ สำหรับความรักที่มั่นคงยาวนานตราบจนวันตาย เคยคิดว่ามีแต่คำพูดในละครทีวีซะอีก กี่คนกันเชียวที่จะโชคดีที่จะได้รับอย่างนี้ เชื่อว่าคงตายตาหลับแน่ นับถือน้ำใจยายๆจริงๆครับ