จำใจจาก "นิพิฏฐ์" เตรียมลาออก ปชป. สัปดาห์หน้า เผยไปอยู่กับพรรคที่ให้เกียรติ ไม่มีคนสีเทา
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.พัทลุง บอกว่า ตนได้ตัดสินใจที่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าจะไปยื่นหนังสือลาออกที่พรรค เพราะได้ตัดสินใจแล้ว เนื่องจากตนไม่มีที่ยืนในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จึงจำเป็นต้องไปหาที่อยู่ใหม่ โดยในระยะหลังผู้บริหารพรรค มีแนวนโยบายและความคิดในการบริหารและการปฏิรูปพรรคแตกต่างจากตน และตนไม่ได้รับการให้เกียรติจากพรรค เวลาทำอะไรก็ไม่ปรึกษาตน แม้กระทั่งการจะส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิมของตน ซึ่งตนเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคมา 3 สมัย แล้วอยู่ๆ ก็ส่งคนอื่นมา ถอดคนที่เคยตกลงกันเอาไว้ จึงถือว่าไม่ให้เกียรติ ซึ่งหากไม่ให้เกียรติกันเช่นนี้การทำงานร่วมกันในอนาคตคงเป็นเรื่องยาก และคงมีเหตุการณ์ทำนองนี้อีก จึงคิดว่าไปทำงานในพรรคที่ให้เกียรติตนดีกว่า ทั้งนี้ยืนยันยังเคารพนับถือพระแม่ธรณีบีบมวยผม และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม และยังไม่ได้ทันได้บอกนายชวน แต่ข่าวรั่วก่อน แต่ถึงอย่างไรก็จะยังไปกราบลานายชวน และยืนยันไม่เปลี่ยนใจ
จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่มีการส่งผู้สมัครในเขตผมโดยไม่มีการปรึกษาผม ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าเอาคนนี้แหละ แต่อยู่ๆ เขามาถอดคนที่ผมตกลงกันไว้เฉยเลย อันนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติ และเขาก็ผิดข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้หลังจากที่ผมแพ้การเลือกตั้งว่าเขาต้องดูแลอดีต ส.ส.ด้วย เราได้ 22 เสียงในภาคใต้ แต่ทั้ง 28 คน ผู้บริหารทิ้งหมดเลยไม่เคยดูดำดูดีทั้ง 28 คน อยู่ลำบากมาก จะหาเสียงให้พรรค จะส่งปฏิทิน โปสเตอร์ก็ต้องเติมน้ำมันเอง แต่กับ ส.ส.เขาดูแลดีมาก เพราะขณะนี้ผู้บริหาร 1 คน มี ส.ส.แค่ 4-5 คนก็ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว หากเป็นแบบนี้ผมว่าพรรคไปไม่ได้
ส่วนที่มีข่าวว่าจะย้ายไป ทำงานการเมืองกับกลุ่มของนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือกลุ่มสี่กุมารนั้น นายนิพิฏฐ์ บอกว่าความจริงตนคุยกับหลายพรรคการเมือง แต่ดูถึงความเป็นไปได้และนโยบายในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก ที่สำคัญคือพรรคที่จะไปสังกัดใหม่ต้องไม่สุดโต่ง ไม่ซ้ายจัดไม่ขวาจัด ไม่เติมอคติไม่เติมความแค้น ความโกรธให้เกิดขึ้นในหัวใจของคนไทย ต้องถอดสลักความเครียดแค้นความชิงชังออกจากหัวใจของคนไทยให้ได้ และนำพาประเทศเดินหน้าหลังยุบ covid-19 ให้ได้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ยังไม่ขอระบุว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใด ขอให้รอหัวหน้าพรรคเป็นผู้ประกาศจะดีกว่า ย้ำว่าพรรคใหม่ที่จะไปสังกัดต้องเป็นพรรคที่ดีทั้งองค์ประกอบโครงสร้างของพรรค และบุคลากรที่จะมาสังกัดต้องโปร่งใสหรือคลีน หากเป็นสีเทาตนก็ไม่ร่วมด้วย