ภัยการล่าอาณานิคม โดย สิริอัญญา วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2564
ภัยการล่าอาณานิคม
โดย สิริอัญญา
วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2564
ยุคของการล่าอาณานิคมที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 ได้สิ้นสุดลงไปช้านานแล้ว แม้กระทั่งภัยจากการล่าอาณานิคมที่ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยทำสงครามล้างผลาญชีวิตของประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านนับล้านคนก็ได้สิ้นสุดลงไปนานแล้ว
เหตุการณ์ขับไล่ฐานทัพต่างชาติออกจากประเทศไทยโดยสันติซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เป็นเกียรติศักดิ์ของประชาชาติไทยทั้งปวงก็ได้หมดไปนานแล้ว
แต่บัดนี้ภัยคุกคามจากการล่าอาณานิคมกำลังรุกเข้ามายังประเทศไทยอย่างรุนแรงและกว้างขวาง โดยครั้งนี้มีการเคลื่อนไหวซึมลึกต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว มีการจัดตั้งอาจารย์ในมหาวิทยาลัย นักศึกษา เยาวชน และประชาชนในหลายพื้นที่หลายแห่ง ดังที่เป็นเหตุให้เกิดปรากฏการณ์ล้มล้างการปกครองที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
ความพยายามที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานทางการทหารและการเมืองระหว่างประเทศเพื่อเป็นศูนย์ควบคุมประเทศอาเซียนกำลังเกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างรวดเร็วและใหญ่โตมาก ทำให้ประชาชนชาวไทยตื่นตัวขึ้นจับจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความไม่สบายใจ
จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารขึ้นในพม่า และเป็นเหตุให้มีฝ่ายต่อต้านขึ้นในพม่าโดยได้รับการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังจากนักล่าอาณานิคม จนกระทั่งเป้าหมายแห่งการนี้ก็มีความชัดเจนขึ้นแล้วว่ามุ่งที่จะใช้พม่าเป็นฐานทางการทหารเพื่อสกัดกั้นประเทศจีน รัสเซีย และอิหร่าน รวมทั้งเกาหลีเหนือด้วย
ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายต่อต้านขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากนักล่าอาณานิคม และมีแรงกดดันมากหลายที่จะกำจัดรัฐบาลทหารของพม่าให้ออกไปจากอำนาจ จนกระทั่งกำลังเกิดเป็นสงครามกลางเมืองขึ้นในพม่า
ข่าวคราวการที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพม่ากำลังออกพันธบัตรขายให้แก่นานาชาติเพื่อนำเงินมาใช้ในการต่อต้านรัฐบาลพม่า แม้ดูว่าเป็นเรื่องน่าขันที่ใครไหนจะไปลงทุนซื้อพันธบัตรในลักษณะนี้ แต่ด้วยการอุ้มชูของนักล่าอาณานิคมจึงมีผู้เข้าซื้อพันธบัตรดังกล่าวไปแล้วราว 6 ล้านเหรียญสหรัฐ สงครามกลางเมืองในพม่าได้เพิ่มความรุนแรงขึ้นตามจำนวนทหารรับจ้าง กองกำลังต่างชาติและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่างชาติได้ให้การสนับสนุนแก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพม่า ซึ่งรัฐบาลพม่าก็รู้ทันว่าความช่วยเหลือเหล่านั้นผ่านไปยังพม่าโดยทางไหน แต่พม่าก็ยังคงเคารพและให้เกียรติประเทศที่เกี่ยวข้อง ไม่เอ่ยชื่อหรือประจานการเอื้อประโยชน์ให้มีการสร้างความรุนแรงเป็นสงครามกลางเมืองในพม่าแต่อย่างใด
พม่าก็มีพันธมิตรที่สำคัญคือรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่มีวันที่จะทอดทิ้งกันได้ โดยเฉพาะจีนนั้นมีผลประโยชน์การลงทุนในพม่าจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อมีการขู่ว่าจะวางระเบิดทำลายท่อแก๊สของจีนที่ได้วางไว้ตั้งแต่ประเทศจีนเข้ามายังประเทศพม่าไปจรดที่แคว้นยะไข่ จึงเป็นเหตุให้พม่าขอให้จีนส่งกำลังทหารมาคุ้มครองท่อแก๊สเอง ซึ่งจีนก็ดำเนินการตามขอ
ดังนั้นแนวรบของสงครามกลางเมืองในพม่าจึงเกิดขึ้นในพื้นที่ด้านตะวันตกของแนวท่อแก๊สดังกล่าวตลอดแนวมาถึงชายแดนไทย โดยเฉพาะแนวหลังของพม่าที่ติดกับชายแดนไทยนั้นเป็นพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย 3 แคว้น ตั้งแต่กาญจนบุรีขึ้นไปจนถึงเชียงราย
ดังนั้นถ้าสงครามกลางเมืองในพม่าขยายตัวจากพื้นที่ด้านตะวันตกของแนวท่อแก๊สเข้ามาถึงเขตพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยทั้ง 3 ไฟสงครามก็จะลามมาถึงชายแดนไทย และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างกองทัพของพม่ากับกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 3 ของประเทศไทย และเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากลูกหลงในประเทศไทยตั้งแต่กาญจนบุรีขึ้นไปถึงเชียงราย
และถ้าเกิดความรุนแรงเช่นนั้นขึ้น มิตรประเทศของไทยคือสหรัฐก็มีสิทธิ์อ้างสัญญาจัสแมกส่งกำลังทหารเข้ามาช่วยเหลือประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตลอดแนวลงมาถึงภาคกลางได้ เพราะเพียงสหรัฐมีความเห็นแต่ฝ่ายเดียวว่าความมั่นคงของประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภัยสงครามนั้นก็มีสิทธิ์ส่งทหารมาได้แล้ว
การสงครามกับพม่าไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศไทย และไม่ใช่ผลประโยชน์ของชนกลุ่มน้อยตลอดแนวชายแดนไทยด้วย และไม่ใช่ผลประโยชน์ของพม่าด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องเหล่านี้จึงล้วนไม่ปรารถนาให้เกิดสงครามและความรุนแรงขึ้น
สำหรับประเทศไทย ถ้าหากกองทัพพม่าไม่รุกตีเข้ามายังเขตของชนกลุ่มน้อย 3 แคว้นตลอดแนวชายแดนไทย ก็จะทำให้พื้นที่ฝั่งตะวันตกของชายแดนไทยตลอดแนวลึกเข้าไปในดินแดนพม่าระยะ 20 กิโลเมตร ปลอดจากภัยสงคราม ก็จะป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 3 และกองทัพพม่า
ก็จะไม่มีใครอาศัยเป็นเหตุที่จะยกกองทัพเข้ามาตั้งในประเทศไทยได้
ดังนั้นประเทศไทยจึงจำเป็นที่จะต้องหาทางเจรจาปรองดองประสานงานด้วยวิธีการทุกอย่างเพื่อไม่ให้ไฟสงครามกลางเมืองในพม่าลุกลามเข้ามายังพื้นที่ชนกลุ่มน้อยทั้ง 3 แคว้น เพราะเป็นหนทางสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยปลอดภัยจากสงคราม แต่ย่อมไม่เป็นไปตามความประสงค์ของนักล่าอาณานิคม ซึ่งประเทศไทยจะต้องหาทางแก้ไขปัญหาในการปรับทุกข์ผูกมิตรสร้างความเข้าอกเข้าใจและความจำเป็นของบ้านเมืองของเราต่อไป
สำหรับประชาชนไทยจึงต้องมีความเข้าใจต่อสถานการณ์นี้อย่างแจ่มแจ้งเพื่อสามัคคีกันป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ประเทศไทยต้องกลายเป็นประเทศซีเรีย 2 ที่ทุกคนต้องบ้านแตกสาแหรกขาดและชาติล่มจมให้จงได้.










