สมรสเท่าเทียม กับความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย
กระแส สมรสเท่าเทียม ในประเทศไทยมีการยื่นตัวการแก้ พรบ.มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้มีกฎหมายที่รับรองสิทธิจดทะเบียนสมรสหรือคู่ชีวิตสำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทำให้หลายพรรคการเมืองเล็งเห็นความสำคัญ และพร้อมผลักดันการแก้กฎหมาย
สำหรับ สมรสเท่าเทียม กลับมามีกระแสอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยที่มาของคดี ที่คู่รักเพศหญิงคู่หนึ่ง ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2563 แต่ถูกนายทะเบียนปฏิเสธ จึงแต่งทนายความให้ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้ศาลสั่งให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนสมรส หากนายทะเบียนปฏิเสธ ก็ขอให้ศาลส่งคำร้องโต้แย้งประเด็นข้อกฎหมายไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ที่รับรองการสมรสเฉพาะชาย-หญิง ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยโดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสองและวรรคสาม โดยมีข้อสังเกตว่ารัฐสภา คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสมควรดำเนินการตรากฎหมาย เพื่อรับรองสิทธิและหน้าที่ของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศต่อไป
ทั้งนี้มีพรรคการเมืองที่ยังสนับสนุนความ สมรสเท่าเทียมคือยพรรคก้าวไกลยืนยันเดินหน้าผลักดันการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการสมรส มาตรา 1448 และมาตราที่เกี่ยวข้อง 69 มาตราที่ยื่นไว้ก่อนหน้านี้
พรรคชาติไทยพัฒนา ก็ยืนยันเช่นกันว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีจุดยืนเป็น LGBT Ally ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่สนับสนุนให้ประเทศไทยมีการแก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 เพื่อรับรองสิทธิสมรสตามกฎหมายให้แก่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ
เป็นที่จับตามองการเคลื่อนไหวที่สำคัญของกฎหมายไทยและพร้อมกับจับตามองการสนับสนุนของพรรคการเมือง