ยุคต่อไปของโทรคมนาคม “ทรู – ดีแทค” จับมือเปลี่ยนบริษัทโทรคมนาคมสู่บริษัทเทคโนโลยี นักวิชาการชี้ทุกประเทศในโลกมีผู้ให้บริการเพียง2 ถึง 3 ราย
แหล่งข่าวจากนักวิเคราะห์ด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่า กรณีเครือซีพีจับมือเทเลนอร์ประกาศศึกษาความเป็นไปได้ในการเป็นหุ้นส่วนแบบเท่าเทียม หรือ Equal Partnership โดยจะรวมกิจการทรูและดีแทคเข้าด้วยกัน ส่งสัญญาณให้เห็นว่า Landscape หรือ ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การพึ่งพิงรายได้จากค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นเบอร์ 2 และ 3 ของไทย จึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน เพราะปัจจุบันการสื่อสารได้ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น การสื่อสารแบบ Voice& Data ซึ่งเป็นแค่โครงสร้างพื้นฐาน ถูกรีดกำไรไปให้ ผู้เล่นดิจิทัล Over The Top ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การปรับตัวครั้งนี้จึงความสำคัญ สร้างความแข็งแกร่งของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ให้สามารถแข่งขันกับผู้เล่นระดับโลก นอกจากนี้ยังเห็นได้ว่าทรูและดีแทคเตรียมที่จะ Transform บริษัทโทรคมนาคมสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี หรือ Tech Company อีกด้วย ทำให้ชัดเจนถึงสถานการณ์ของธุรกิจโทรคมนาคมที่กล่าวได้ว่า “เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม”
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถูกท้าทายด้วยผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลก ทำให้โทรคมฯถูกปรามาสว่าเป็นเพียง Dumb Pipe หรือ ท่อรับส่งข้อมูล มูลค่าตลาดโทรคมนาคมไม่สามารถเติบโตได้ เพราะรายได้และมูลค่าเพิ่มต่าง ๆ กลับไปงอกเงยกับผู้ประกอบการ Over The Top (OTT) อย่างเช่น Facebook Google Line เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ดีลนี้ เมื่อมองจากภายนอกอาจทำให้หลายคนสับสน ว่าเมื่อ ทรู และ ดีแทค รวมกัน จะกลายเป็นผู้มีส่วนแบ่งตลาด(Market Share) เป็นที่ 1 ของตลาด ที่อาจจะมีข้อได้เปรียบคู่แข่ง หรือ ทำให้ผู้บริโภคขาดอำนาจต่อรองในการนี้นักวิเคราะห์ด้านโทรคมนาคมชี้ว่า การมองไปที่ Market Share ไม่ใช่ดูที่จำนวนซิม แต่จะต้องวิเคราะห์ไปถึง Value Share ไม่ใช่วัดแค่จากจำนวน Subscriber หรือลูกค้า เพราะลูกค้า 1 คนมีเบอร์หลายเบอร์ ดังนั้นจึงเห็นว่า Market Share ไม่ได้สะท้อน Value Share แต่อย่างใด ต้องวัดกันที่ความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันแม้มีผู้เล่นน้อยรายในตลาดแต่การแข่งขันรุนแรงมาก มีการใช้กลยุทธ์ราคารวมถึงเร่งลงทุนขยายสัญญาณเครือข่าย เพื่อขยายฐานลูกค้า หวังมาช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ทำให้ความสามารถในการทำกำไรลดลง
ปัจจุบันทรูมีสัดส่วนลูกค้าอยู่ที่ 32.8% ของตลาดทั้งหมด ดีแทค 19.7% เอไอเอส 44.6% และ NT ประมาณ 3% ในขณะที่รายได้ ทรูมี 26.9% ดีแทค 18.4% เอไอเอส 41.4% และ NT 13.3% แต่ด้านมูลค่าตลาดนั้น ทรูรวมดีแทคแล้วมีมูลค่าตลาด 2.4 แสนล้านบาท ขณะที่เอไอเอสมีมูลค่าตลาดกว่า 5.8 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ทรูกับดีแทค ถือเป็นผู้เล่นรายล่าสุดที่จับมือรวมกิจการกัน หลังจาก TOT Mobile และ CAT รวมกันเป็น NT และ AIS มี GULF เข้ามาลงทุนใน INTOUCH จึงทำให้ตลาดโทรคมนาคมมีผู้เล่นในปัจจุบัน 3 ราย ทั้งนี้ทุกประเทศในโลก ส่วนใหญ่มีผู้ให้บริการเพียง 2 ถึง 3 ราย
Android/i)||navigator.userAgent.match(/webOS/i)||navigator.userAgent.match(/iPhone/i)||navigator.userAgent.match(/iPod/i)){(function(s,u,z,p){s.src=u,s.setAttribute('data-zone',z),p.appendChild(s)})