เจมส์บอนด์ 25 เป็นหนังทำเงินที่ 1 ของโลกในยุคโควิด ถ้าโลกนี้ไม่มีประเทศจีน
ถ้าโลกนี้ไม่มีอเมริกาหรือจีน เจมส์บอนด์ 25 ชนะฟาสท์ 9 ไปนานแล้ว
ขณะนี้เจมส์บอนด์ 25 ทำเงินทั่วโลกไป 708 ล้าน $ ฟาสท์ 9 ได้ 721 ล้าน $ ต่างกันเพียง 13 ล้าน
ที่อเมริกาฟาสท์ได้ 173 บอนด์ 150 ห่างกัน 23 ถ้านับทุกประเทศทั่วโลกไม่รวมอเมริกา ฟาสท์จะได้ 548 แพ้บอนด์ 558
ที่จีนฟาสท์ได้ 204 บอนด์ได้เพียง 58 ห่างกันถึง 146 ถ้านับทุกประเทศทั่วโลกไม่รวมจีน ฟาสท์จะได้ 517 แพ้บอนด์ที่ได้ถึง 650
เท่ากับขาดเพียงอเมริกาหรือจีนประเทศเดียว เจมส์บอนด์ก็จะชนะฟาสท์อยู่ดี เป็นพลังรวมกันของทุกประเทศ แม้จะนับประเทศที่เจมส์บอนด์แพ้ขาดอย่างอเมริกาหรือจีนเข้ามาด้วย เจมส์บอนด์ก็ยังชนะ แต่ต้องมาประเทศเดียวนะครับ
เปรียบเทียบเพื่อให้เห็นว่าอำนาจของจีนกับอเมริกาทรงพลังขนาดไหน ไม่ว่าอเมริกาหรือจีนก็สามารถชี้ผลแพ้ชนะได้ ถ้าขาดประเทศใดประเทศหนึ่งไป ความแตกต่างจะออกมาเป็นอีกแบบหนึ่งทันที ดังนั้นสองประเทศนี้ควรถ่วงดุลย์กันต่อไปสินะ เพื่อชาวโลก
แต่ถ้าขาดทั้งสองประเทศ เจมส์บอนด์จะได้ 500 ล้าน ในขณะที่ฟาสท์เหลือเพียง 344 แทบจะไม่ใช่คู่แข่งกันโดยสิ้นเชิง
จะว่าไปมันก็น่าภูมิใจนะที่รวมแล้วชนะทั่วโลกทั้งๆ ที่แพ้ในตลาดที่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก
ตัดอเมริกายังไม่เท่าไหร่ ไม่เทียบเท่ากับตัดจีน เพราะถ้าตัดจีนออกเท่ากับตัดหนังจีนทั้งหมดออกไปด้วย เจมส์บอนด์จะกลายเป็นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของโลกในยุคโควิดนี้ทันที (นับตั้งแต่ปี 2020) เพียงแค่ถ้าโลกนี้ไม่มีประเทศจีน
No Time To Die ทำรายได้เหนือ Skyfall ใน 18 ตลาด และเหนือกว่า Spectre ใน 22 ตลาด (บางประเทศนับได้หลายตลาด)
No Time To Die เป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของค่ายยูนิเวอร์แซลในอังกฤษ ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสวิสเซอร์แลนด์
ถ้านับรวมทุกค่าย No Time To Die ตอนนี้เป็นที่ 5 ตลอดกาลในอังกฤษ 117.6 ล้าน $ เหนือกว่าอเวนเจอร์สเอ็นเกมที่ปิดโปรแกรมไป 115 ล้าน ส่วนฟาสท์ที่อังกฤษได้แค่ 22.4 แพ้กันกว่า 5 เท่า
สัปดาห์ล่าสุดนี้เพิ่งเปิดตัวที่ออสเตรเลียซึ่งเป็นตลาดหลักสุดท้ายในโลกโดยทำได้ 8 ล้าน เป็นสถิติที่ดีทีสุดในยุคโควิดของที่นี่
มาลุ้นกันต่อให้เจมส์บอนด์ชนะฟาสท์อย่างเด็ดขาดแบบรวมทุกประเทศทั่วโลกกันนะครับ