แผ่นดินจีนเป็นผู้ริเริ่มการใช้อาวุธดินปืนในการสงคราม
แผ่นดินจีนเป็นผู้ริเริ่มการใช้อาวุธดินปืนในการสงครามแต่ไม่ค่อยจะใช้ยุทธวิธีที่ใช้อาวุธปืนเป็นหลัก ดาบและธนูยังคงครองความเป็นใหญ่เหนือสนามรบแห่งแม่น้ำฮวงโห มันก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้เป็นแบบนั้น วิวัฒธนาการส่วนใหญ่ของสงคราม มันจะไม่เกิดขึ้นเมื่อไม่เกิดสงคราม อาวุธดินปืนรุ่นแรกที่เกิดในจีนถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ขับไล่ชนเผ่าบนหลังม้าผู้รุกรานผู้ตั้งตนเป็นต้าหยวน มีบันทึกการใช้อาวุธปืนที่พัฒนาที่สุดของจีนครั้งสุดท้ายคือสงครามอิมจิน หลังจากนั้นอาวุธปืนส่วนใหญ่ของจีนก็กลายเป็นของที่ซื้อนำเข้าจากชาติตะวันตกหรือดัดแปลงเอาเอง แต่จีนก็ไม่ได้ใช้แท่งเหล็กที่ไม่มีแม้แต่ไกปืนไปจนหมดศตวรรษที่16หรอกนะครับ
ในรัชสมัยแห่งจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งต้าหมิงทรงได้ก่อตั้งกองทัพฉินจี้หยิง(神机营 ทัพผู้ศรัทธาในท่อนเหล็ก)ซึ่งเน้นไปทางการใช้อาวุธดินปืนขึ้นมาเพื่อเป็นหนึ่งในสามกองทหารรักษาการเมืองหลวง และ ทำการวิจัยพัฒนาอาวุธปืนให้มีประสิทธิภาพ ในสมัยศตวรรษที่16พวกเค้าเป็นกองกำลังเดียวที่ได้รับอาวุธปืนไฟของชาติตะวันตกเข้าประจำการทั้งกองทัพขณะที่ทัพอื่นมีแต่จะน้อยลงและหันไปใช้อาวุธระยะประชิดมากขึ้น
แต่ผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาอาวุธปืนก็ไม่ใช่ชาวจีนเป็นหลัก ชาวอันนัม หรือ ชาวเวียดนามในปัจจุบันที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธปืนมากเหลือเกินทั้งยังมีการสร้างปืนไฟเป็นของตัวเอง รวมไปถึง ชาวออตโตมัน และชาวตะวันตก ที่ถูกเรียกตัวมารับราชการในราชสำนักตามคำร้องขอของกองทัพฉินจี้หยิง
สิ่งนึงที่เหมือนกันในการพัฒนาอาวุธปืนของสองทวีปนั่นคือการเพิ่มความต่อเนื่องในการยิง ฝั่งยุโรปจะเป็นpuckle gun ฝั่งเอเชียก็คือซานหยานชง(三眼銃) วิธีการยิงก็ยังเหมือนอาวุธดินปืนรุ่นแรกคือนำท่อนเหล็กไปตั้งไว้เล็งและจุดสายฉนวน รอจนกว่าสายฉนวนจะระเบิดดินดำให้กระสุนพุ่งออกไป หรือไม่ก็ใช้ไม้จุดไฟที่รูเพื่อจุดระเบิดทันที ที่แตกต่างออกไปคือมันมีสามลำกล้อง เป็นปืนที่นิยมมาก เพราะมันยังสามารถเป็นอาวุธระยะประชิดได้ด้วยโดยการนำปลายหอกไปติดไว้ตรงกลางระหว่างสามลำกล้องปืน จนกระทั่งการพัฒนาปืนแบบใหม่ที่มีห้าลำกล้องที่ชื่อว่าหวู่เหลนเฉินจี (五雷神机)ที่มีการยื่นศูนย์ปืนให้ยาวขึ้นที่ประทับบ่ามีปลายโค้งเพื่อความง่ายในการเล็ง พร้อมกับการติดตั้งคีบสำหรับใส่เชือกในการจุดฉนวนดินปืน(แบบปืนคาบชุด ปืนไฟ)ตรงลำกล้องทั้ง5จะสามารถหมุนได้เพื่อยิงต่อเนื่อง จึงเป็นที่ยอมรับว่านี่คือปืนระบบ"matchlocks"
ในราวศตวรรศที่16 ชุนเหลยชง(迅雷銃) ปืนสายฟ้า ถูกคิดค้นโดยผู้ดูแลมณฑลเจ้อเจียง จ้าวชื่อเซิน(趙士楨) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรบกับญี่ปุ่นหลังจากมีการรายงานว่าญี่ปุ่นมีการผลิตปืนไฟกว่าสามหมื่นกระบอกเข้าประจำการ รวมไปถึงต่อต้านโจรสลัดวาโกะด้วย มันเหมือนกับหวู่เหลนเฉินจีแต่มันมีโล่ติดอยู่ด้วยมันสามารถหมุนได้72องศามีระยะหวังผล120ก้าว(92เมตร)มันยังสามารถแยกส่วนออกมาเป็นอาวุธระยะประชิดได้ด้วยเช่นหอก ขวาน โล่ หลังจากนี้อาวุธปืนของจีนก็จะเน้นไปทางยิงได้หลายนัดหลายลำกล้องแต่ระยะหวังผลไม่เท่าปืนไฟทั่วไป แต่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือปืนไฟจาวา(爪哇銃)ปืนไฟของชาวอันนัมที่มีความเป็นปืนไฟไม่แฟนซีแบบจีน และเป็นอาวุธปืนหลักของกองทัพหมิงในปี1644
อ้างอิงจาก: History of War Thailand














