เลขาฯ "ชวน" พาเหรด ซัดกลับ "ปารีณา" ใจเย็นๆ มีสติ ฟังให้ได้ได้ศัพท์ก่อนจับไปกระเดียด
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่าไม่ทราบว่า น.ส.ปารีณา ฟังมาจากไหน ข้อเท็จจริงคือ นายชวน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ไม่ได้พูดพาดพิงถึงน.ส.ปารีณาเลยแม้แต่จะเอ่ยชื่อถึง มีผู้สื่อข่าวที่สอบถามท่าน ซึ่งมีข้อความยืนยันได้ หาก น.ส.ปรีณา ฟังจากการสัมภาษณ์ของนายชวน จะเห็นว่าท่านชวนไม่ได้พูดพาดพิง กล่าวหา หรือใส่ร้าย น.ส.ปารีณา เลย แต่ น.ส.ปารีณากลับมาพูดจาให้ร้ายประธานสภาฯ เหมือนไม่ให้ความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่ การที่ ส.ส.ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการได้หรือไม่ นายชวนก็พูดเพียงคำสั่งศาลที่จะต้องยึดถือเป็นแนวปฏิบัติต่อไปเท่านั้น ไม่ได้พูดถึงการเป็นกรรมาธิการของ น.ส.ปารีณาเช่นกัน ขอให้คุณปารีณาได้ใจเย็นๆ ใจร่มๆ รับฟังเรื่องต่างๆ อย่างมีสติ ท่านชวนเป็นผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้ยึดถือคำพูด พูดแล้วรักษาคำพูด ยกตัวอย่างการเลือกตั้ง สส. ปี 2539 พรรคประชาธิปัตย์ แพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคความหวังใหม่ 2 เสียง แต่หลายพรรคเสนอให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ เพราะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ แต่ท่านไม่เอา เพราะท่านพูดไว้แล้วว่า พรรคที่ชนะได้เสียงข้างมากที่สุดได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน นี่คือคนที่รักษาคำพูด ไม่เคยคิดตะบัดสัตย์เพื่อประโยชน์ของตนเอง แม้ต่อมา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ บริหารประเทศประสบปัญหาต้มยำกุ้ง ต้องลาออก ท่านชวนกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง เข้ามาแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศแทน ซึ่งท่านชวนบอกว่าจะอยู่เพื่อแก้ปัญหาให้พ้นวิกฤต จะไม่อยู่จนหมดสมัย ก่อนหมดสมัย ท่านก็ยุบสภา เป็นไปตามที่ท่านได้พูดไว้ ทั้งที่ท่านสามารถเป็นนายกฯ จนครบสมัยได้ แต่ท่านไม่ทำ นี่คือคนพูดจริงทำจริง ขอให้คุณปารีณา โปรดเข้าใจ ท่านเป็นคนรักษาคำพูด ท่านคิดก่อนพูดเสมอ
ขณะที่ นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา บอกว่ากรณีของ น.ส.ปารีณา เป็นไปตามคำสั่งศาลที่ได้สั่งในทางคดี เป็นคดีที่ถูกฟ้องต่อศาลฎีกา เรื่อง ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ว่าด้วยเรื่องจริยธรรม และศาลได้มีคำสั่งรับคำร้องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เมื่อศาลมีความเห็นเช่นนั้น น.ส.ปรีณา ก็ต้องปฏิบัติตามในฐานะเป็นคู่ความในคดีตามหลักกฎหมาย
ส่วนที่กล่าวพาดพิงนายชวน ว่าเคยปกป้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีนั่งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น น.ส.ปารีณา ควรฟังให้ครบ ฟังให้ได้ศัพท์ก่อนจับไปกระเดียด เพราะกรณีของนายธนาธร มีผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. แต่ไปเป็นกรรมาธิการในสัดส่วนคนนอกได้หรือไม่ นายชวนตอบว่า ต้องยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก บทบาทการเป็น ส.ส.ทำไม่ได้ แต่กรรมาธิการวิสามัญมีสัดส่วนคนนอกได้ และเป็นเรื่องของสภาที่จัดตั้ง องค์กรที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็ว่าไปตามกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุล น.ส.ปารีณาควรใช้เวลาในการต่อสู้คดีจะดีกว่าพาดพิงคนอื่น และในการต่อสู้คดีได้ทนายความที่เก่งที่แม่นข้อกฎหมายคือเรื่องที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกันคือ ความจริงของคนที่เป็นลูกความ สาระสำคัญที่สุดต้องติดตามกันต่อไป หลักพื้นฐานกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีความผิด จนกว่าศาลจะมีคําพิพากษาอันถึงที่สุด เชื่อว่าหลายคนรอติดตามจุดสิ้นสุดอย่างใกล้ชิด