การเที่ยวเวียดนาม vs ไทย เอามาเปรียบเทียบกันได้มั๊ย?, อะไรคือความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง 2 ประเทศนี้?

สวัสดีค่ะ ทุกวันนี้ ประเทศไทย และ เวียดนาม คือ 2 จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมักจะเลือกมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก หรือไม่ก็ตัดสินใจเลือกที่จะมาใช้ชีวิตในวัยเกษียณอยู่ที่นี่ ซึ่งก็น่าจะมาจากการที่ทั้ง 2 ประเทศนั้นมี ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สภาพอากาศ อาหารการกิน รวมถึงผู้คนที่คล้ายๆ กัน นอกจากนี้การท่องเที่ยวในไทยและเวียดนามก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากนักสำหรับชาวต่างชาติอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เรามักจะได้เห็นการนำเอาเรื่องราวของทั้ง 2 ประเทศนี้มาเปรียบเทียบกันออกสื่ออยู่เสมอๆ รวมถึงตามโซเชียลต่างๆ ด้วย อย่างเช่น ได้มีชาวต่างชาติไปตั้งกระทู้ถามเอาไว้ซึ่งแปลเป็นไทยได้ประมาณว่า การเดินทางไปเที่ยวเวียดนามสามารถนำมาเปรียบเทียบกับเมืองไทยได้ไหม? อะไรคือความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง 2 ประเทศนี้? ส่วนคำตอบแต่ละคำตอบจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปรับชมรับฟังกันได้เลยค่ะ

ความคิดเห็นแรกนะคะ เปรียบเทียบกันไม่ได้เลย ผู้คนแตกต่างกันมาก และประวัติศาสตร์ของการท่องเที่ยวก็แตกต่างกันมาก ตอนที่การท่องเที่ยวกำลังเริ่มขึ้นในประเทศไทย เวียดนามกำลังต่อสู้กับสงครามอันยาวนานและสกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์

ความคิดเห็นต่อมานะคะ เวียดนามคึกคักกว่า คนเยอะกว่า ซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงประเทศจีน คนไทยเงียบกว่า ให้อภัยมากกว่า ที่เวียดนามการข้ามถนนโดยเฉพาะในฮานอยหรือไซ่ง่อนนั้นเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวมาก ถนน 8, 10 หรือ 12 เลนมีรถพลุกพล่านเต็มไปหมด ไม่มีใครหยุดให้คุณ คุณต้องเดินเร็วๆ เพราะมีมอเตอร์ไซค์ 1,000 คันอยู่รอบๆตัวคุณ ถนนในไทยอันตรายกว่าถ้าคุณขี่จักรยาน แต่สำหรับผม ผมก็ยังรู้สึกว่าประเทศไทยปลอดภัยมากว่าเวียดนาม ในเวียดนามมีฤดูหนาวที่แน่นอนซึ่งเด่นชัดกว่าที่เชียงใหม่ แต่ที่นั่นอาหารไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ผู้คนเป็นมิตรทั้งสองประเทศ ชาวเวียดนามค่อนข้างจะขี้อายอยู่เล็กน้อย ถนนและป้ายบอกทางในประเทศไทยดีกว่าที่เวียดนาม ประเทศไทยค่อนข้างสะอาด

ความคิดเห็นต่อมานะคะ เปรียบเทียบกันไม่ได้เลย เวียดนามค่อนข้างแย่สำหรับนักท่องเที่ยว อย่าเสียเวลาและเงินของคุณในเวียดนาม
1. คาดว่าคุณจะถูกหลอกหากคุณเป็นนักท่องเที่ยว พวกเขาจะคิดราคาที่ต่างกัน ซึ่งมันอยู่กับว่าพวกเขามาจากเวียดนามเหนือหรือเวียดนามใต้ ลองนึกภาพการซื้อแอปเปิ้ลจากผู้ขายข้างถนนและถูกเรียกเก็บเงิน 10 เหรียญต่อ 1 ลูกดูสิ ประเทศไทยเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ดีมาก บางสถานที่สินค้ามีราคาถูก คุณรู้ว่าราคาแรกของพวกเขาสามารถต่อรองได้ แต่ฉันก็ไม่อยากทำอีกแล้วสำหรับผู้ขายบางราย เพราะราคามันถูกมากอยู่แล้ว ซึ่งคุณจะรู้สึกแย่มากหากพวกเขาได้รับเงินน้อยกว่ามูลค่าของสิ่งของที่คุณได้รับมา

2. การรีไซเคิลอาหารเป็นบรรทัดฐานในเวียดนาม เป็นบรรทัดฐานที่พวกเขาไม่ได้ซ่อนเอาไว้สักนิดเลย ดังนั้นจงจู้จี้จุกจิกให้มากเมื่อคุณไปกินอาหารที่นั่น ซึ่งฉันไม่เห็นเรื่องแบบนี้ในประเทศไทย

3. สถานที่ท่องเที่ยวของเวียดนามยังขาดปัจจัยที่จะทำให้คุณรู้สึกว้าวจนต้องกลับมาอีกครั้ง คุณจะไม่มีวันเดินทางกลับมาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง วัดในประเทศไทยค่อนข้างดี แต่หลังจากที่คุณได้ดูไป 4-5 ครั้งแล้วคุณก็คงจะไม่อยากเห็นอีกเหมือนกัน

4. การเข้าเมืองที่เวียดนามเป็นหนึ่งในสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่แย่มาก ฉันแค่พูดว่า “ฉันขอโทษ…” ซึ่งฉันหมายความว่าคุณช่วยพูดซ้ำอีกครั้งได้ไหม….ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองคือ ห่วยแตกมาก  ลองนึกภาพการใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจของพวกเขาสิ นั่นคือวิธีที่พวกเขาขอบคุณ ที่เมืองไทยฉันไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน
5. คุณควรจะต้องแน่ใจว่าคุณมีความคุ้มครองที่ดีเยี่ยมในการประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ และการเดินทาง เวียดนามไม่มีวินัยจราจร ฉันจะแปลกใจถ้าคุณไม่เห็นอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นถ้าคุณอยู่ที่นั่นอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ นี่ไม่ใช่กรณีในประเทศไทย คุณกำลังเอาชีวิตของคุณไปเสี่ยงถ้าคุณไปข้ามถนนในเวียดนาม ทางเท้าเป็นของผู้ขาย ดังนั้นคุณจึงเดินบนถนนร่วมกับรถยนต์/จักรยาน และอื่นๆ ทั้งหมด

ความคิดเห็นต่อมานะคะ อาหาร: แตกต่างกัน ประวัติศาสตร์: แตกต่างกัน. วัฒนธรรม: แตกต่างกัน. ภาษา: แตกต่างกัน. ระดับการพัฒนา: แตกต่างกันแทบจะทุกประการ ศาสนา: เหมือนกันแต่ต่างกัน คนไทยขับรถชิดซ้าย ชาวเวียดนามขับรถชิดขวา ฉันเคยคิดเล่นๆนะว่า ประเทศไทยนำหน้าเวียดนามในทุกๆ ด้าน ซึ่งก็อาจจะมีบางอย่างที่เวียดนามกำลังจะไล่ตามทันบ้างแล้ว แต่ในแง่ของการท่องเที่ยว เวียดนามยังคงต้องพยายามอีกมาก เนื่องจากพวกเขาต้องแบกรับเอาไว้ทั้งเรื่องของ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการปกครอง จากประสบการณ์ของผม คนไทยมีความกลมกล่อมมากกว่าและมีจิตสำนึกของพลเมืองในระดับที่สูงกว่า ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่สาธารณะของไทยนั้นจะได้รับการบำรุงรักษาให้ดีขึ้นมาก ในขณะที่ไซ่ง่อนนั้นยากมากที่จะเดินบนทางเท้าทั้งๆที่มีถังขยะอยู่เต็มไปหมด การจราจรในกรุงเทพฯก็มีความเป็นระเบียบที่มากกว่า ถ้าจะให้สรุปสั้นๆ เวียดนามนั้นหยาบกระด้างมากกว่า ระดับการบริการโดยรวมแล้วยังไม่ดีเท่ากับประเทศไทย และถือว่าเป็นสิ่งท้าทายสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ความคิดเห็นต่อมานะคะ ผมเคยไปเวียดนามมาแล้วสี่ครั้ง และประเทศไทยสองครั้ง และก็ยังมีโอกาสได้ใช้เวลากว่า 8 เดือนในอินโดจีนอีกด้วย ตามความคิดเห็นของผม คนเวียดนามเป็นมิตรและเปิดกว้างมากขึ้น ในขณะที่คนไทยนั้นเริ่มที่จะเบื่อหน่ายกับชาวต่างชาติและให้ความจริงใจน้อยลง เพื่อนต่างชาติของผมที่อาศัยอยู่ในฮานอยได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า เวียดนามคือประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

ความคิดเห็นต่อมานะคะ คนอื่นๆ ให้ความคิดเห็นกันค่อนข้างดีแล้ว ส่วนตัวฉันจะเพิ่มเติมให้ดังนี้ ฉันชอบประเทศไทยมากกว่าเวียดนาม ค่าใช้จ่ายในทั้งสองประเทศค่อนข้างที่จะเท่าๆ กัน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เงิน 50 ดอลล่าร์สหรัฐ สามารถเลี้ยงชีพคุณได้อย่างน้อย 1 สัปดาห์

ความคิดเห็นต่อมานะคะ มันมีความเหมือนกันแต่ก็แตกต่างกันอยู่เล็กน้อยในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ผู้คน และไลฟ์สไตล์ แต่คุณจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเอเชียที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าฝนเขตร้อน และอากาศก็ร้อนเกินไปในบางครั้ง ฉันคิดว่าโรงแรมในประเทศไทยมีความหลากหลาย มีราคา และตัวเลือกมากมายให้คุณได้เลือกใช้บริการ ถนนก็ใช้ได้ การรักษาความปลอดภัยก็ยอมรับได้ ตราบใดที่คุณปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีอะไรต้องกังวล

ความคิดเห็นต่อมานะคะ ทั้งสองประเทศนั้นมีความสวยงามพอๆกัน และจากประสบการณ์ 1 ครั้งของผมในเวียดนาม อาหารไม่ได้แตกต่างกันมากนักในเรื่องของส่วนผสม แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยในด้านของรสชาติ สภาพการจราจรก็ไม่ต่างกัน มอเตอร์ไซค์เยอะ ถนนเล็กในบางพื้นที่ โดยรวมแล้วค่าครองชีพก็ไม่ต่างกันมากนัก

ความคิดเห็นต่อมานะคะ เวียดนามมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าไทยอยู่นิดหน่อย ในความคิดของฉันอาหารในประเทศไทยดีกว่า และชายหาดทางใต้ของไทยก็สวยกว่า เวียดนามค่อนข้างวุ่นวาย แต่ก็กำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

ความคิดเห็นต่อมานะคะ ความแตกต่างคือภาษา เงิน วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และทัศนคติ แต่โดยรวมแล้วประเทศไทยปรับตัวให้เข้ากับชาวตะวันตกได้มากกว่า ดังนั้นฉันจึงขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นที่ประเทศไทย

ความคิดเห็นต่อมานะคะ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะไปที่ไหนของแต่ละประเทศมากกว่า ฉันได้ปั่นจักรยานไปยังที่ต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งที่นั่นมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นมาก และพัฒนามากขึ้นสำหรับการปั่นจักรยานและการท่องเที่ยว ทั้งสองประเทศนั้นยอดเยี่ยมมากสำหรับการปั่นจักรยาน

ความคิดเห็นต่อมานะคะ ไทยมีชื่อเสียงทางด้านการนวดและอาหาร ไทยเป็นประเทศเปิดนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ง่าย ในขณะที่เวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ แต่ก็เป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวที่ไม่แพงมากนัก

ความคิดเห็นต่อมานะคะ วัฒนธรรมและอาหารเป็นความแตกต่างหลัก

ความคิดเห็นต่อมานะคะ ชาวเวียดนามค่อนข้างก้าวร้าวต่อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่องของการหลอกลวงนักท่องเที่ยวหรือการโกงนั้นเป็นเรื่องปกติที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนจะต้องเจอเมื่อเดินทางไปยังเวียดนาม ที่เวียดนามมีราคาฝรั่งกับเวียดนามอยู่ทั่วไป ส่วนเรื่องของการคมนาคมขนส่งในเวียดนามนั้น วิธีหลักๆ สำหรับคุณน่าจะเป็น การใช้มอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ ระบบขนส่งสาธารณะในเวียดนามยังมีไม่เพียงพอ

ความคิดเห็นต่อมานะคะ ประเทศไทยกำลังพัฒนาสิ่งต่างๆ อย่างมากมาย ทำให้การเดินทางเข้าเมืองไทยทำได้ง่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เวียดนามเองก็กำลังไล่ตามหลังมาติดๆ โดยรวมแล้วในเวียดนามมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่เศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นแบบตลาดเสรีทำให้คุณมีทางเลือกมากมายสำหรับการขนส่ง สายการบินภายในประเทศ และรถโดยสาร

ความคิดเห็นสุดท้ายสำหรับคลิปนี้นะคะ ฉันค่อนข้างที่จะเอียงไปทางประเทศไทยมากกว่านะ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีสำหรับการท่องเที่ยว อาหารก็ยอดเยี่ยมมีให้เลือกกินได้ตลอดทั้งปี การสื่อสารที่นั่นก็ทำได้ง่ายกว่า ถึงแม้ว่าที่นั่นจะมีกฎระเบียบและข้อบังคับบางอย่างที่เข้มงวดก็ตาม