อธิบดีกรมชลฯ สั่งเร่งคลี่คลายสถานการณ์อุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีน

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจติดตามการระบายน้ำในลุ่มน้ำท่าจีนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกร โดยเน้นย้ำให้ศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีน (ส่วนหน้า) ใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนได้แก่ ลดการรับน้ำผ่านประตูระบายน้ำพลเทพ ซึ่งอยู่ที่ปากแม่น้ำท่าจีน โดยทยอยปรับตามปริมาณน้ำเหนือจากจังหวัดนครสวรรค์ที่ลดลงตามลำดับ พร้อมกันนี้ ใช้คลองชลประทานฝั่งตะวันตกรับน้ำเพิ่มมากขึ้นได้แก่ คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) คลองมะขามเฒ่า-กระเสียว (คลอง มก.) ส่วนฝั่งตะวันออกให้เพิ่มการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ผ่านปตร.มโนรมย์ และคลองชัยนาท-อยุธยา รับน้ำผ่านประตูระบายน้ำมหาราช เป็นต้น

สำหรับโครงการชลประทานในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีให้ปรับลดการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำท่าโบสถ์ ประตูระบายน้ำกระเสียว-สุพรรณ และประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา แล้วตัดยอดปริมาณน้ำที่จะไหลหลากลงสู่แม่น้ำท่าจีนเข้าไปไว้ในพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งเจ้าเจ็ดและทุ่งโพธิ์พระยา ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ทุ่งรับน้ำเข้าไปอย่างเต็มศักยภาพแล้วเพื่อหน่วงน้ำไว้ แล้วค่อยระบายออก เมื่อระดับน้ำแม่น้ำท่าจีนเริ่มลดลง

นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีนตามจุดต่างๆ รวม 79 เครื่อง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำอีก 21 เครื่อง รวมทั้งใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งในพื้นที่ตอนล่าง เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด โดยฝั่งตะวันออกจะรับน้ำส่วนหนึ่งผ่านคลองแนวตั้งต่างๆ ระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทย อีกส่วนหนึ่งจะผันน้ำผ่านคลองเชื่อมเพื่อระบายน้ำออกไปทางแม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง และทะเลอ่าวไทยตามลำดับ ส่วนทางด้านฝั่งตะวันตกใช้คลองระบายน้ำต่างๆ ในการเร่งระบายน้ำออกทะเลเช่นกัน นอกจากนี้ ในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างยังใช้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เร่งระบายน้ำในช่วงน้ำทะเลลงอีกด้วย

นายประพิศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ห่วงใยเกษตรกรทั้งชาวนาในจังหวัดสุพรรณบุรี และสวนไม้ผลในเขตอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จึงสั่งการให้กรมชลประทานเร่งแก้ไขอุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีนเพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด