เงินเฟ้อพุ่งไม่หยุด ดอกเบี้ยจะสูงขึ้นเร็วกว่าคาด

ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน แถลงว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลเมื่อเดือนตุลาคม 2539 เทียบกับที่ก่อนหน้านี้ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 10.5% และเทียบกับที่เพิ่มขึ้นในเดือน สิงหาคม 9.5% ในขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ก็เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนกันยายน เทียบกับที่ผลสำรวจรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% และเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนสิงหาคม เหตุผลสำคัญที่ทำให้ดัชนีพีพีไอและซีพีไอของจีนสูงขึ้นเป็นเพราะว่า ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น

ก่อนหน้าจีนแถลงเพียงหนึ่งวัน กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ก็รายงานว่า ราคาผู้บริโภคสูงกว่าที่คาดเล็กน้อยในเดือนกันยายน โดยดัชนีซีพีไอเพิ่มขึ้น 0.4% เทียบกับที่ดาวโจนส์ประเมินไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น ซึ่งชดเชยที่ราคารถมือสองลดลง และเมื่อเทียบปีต่อปี ดัชนีซีพีไอของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.4% จากที่คาดการณ์ไว้ 5.3% ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2534

ไม่ว่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้นเพียงชั่วคราวหรือไม่ ธนาคารกลางต่างๆ น่าจะตอบโต้ต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเร็วขึ้น มากกว่าที่จะเคลื่อนไหวในปีหน้าตามที่มีการคาดการณ์เป็นส่วนใหญ่

รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนที่เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาชี้ว่า คณะกรรมการนโยบายเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อมากขึ้น และนักลงทุนเริ่มคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยล่วงหน้าอีกครั้ง

ตราสารดอกเบี้ยเฟด ฟันด์ เรต ได้เลื่อนการคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้เร็วขึ้น โดยจากที่คาดว่าจะขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปลายปี 2565 ไปเป็นขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ภายในเดือนกันยายนปีหน้า

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ในตลาดเงินว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจขึ้นดอกเบี้ยก่อนปลายปี ส่วนธนาคารกลางยุโรปอาจเข้มงวดนโยบายในปีหน้า และแม้แต่ธนาคารกลางออสเตรเลียที่มักดำเนินนโยบายเงินที่ใจดีเกินไป ก็อาจขึ้นดอกเบี้ยภายในปลายปี 2566

ธนาคารกลางสิงคโปร์ดูเหมือนจะเป็นเสือปืนไวกว่าใคร ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดเมื่อตัดสินใจเข้มงวดนโยบายเงินในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทั้งที่ผลสำรวจของรอยเตอร์จากนักวิเคราะห์ 13 คน คาดการณ์ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย

อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสิงคโปร์เข้มงวดนโยบายผ่านการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนแทนที่จะผ่านการขึ้นดอกเบี้ยเหมือนประเทศอื่น ๆ โดยได้ปรับช่วงการเคลื่อนไหวของค่าเงินขึ้นเล็กน้อย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีเสถียรภาพของราคาในระยะกลาง ในขณะเดียวกันก็เพื่อตระหนักใหม่ถึงความเสี่ยงที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องจากคาดว่า เงินเฟ้อหลักจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 1-2% ในปีหน้า และคาดว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์น่าจะยังคงโตกว่าแนวโน้มในไตรมาสข้างหน้า โดยคาดว่า อัตราผลผลิตควรกลับมามีศักยภาพในปี 2565 ยกเว้นว่า ไวรัสโคโรนากลับมาระบาดใหม่ทั่วโลก หรือไม่สามารถเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

ผู้กำหนดนโยบายและผู้บริโภคกำลังเริ่มให้ความสนใจต่อราคาสินค้าที่สูงขึ้นมากกว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนเล็กน้อย และมากกว่าเมื่อปี 2563 มาก ยกตัวอย่างเช่นในสหรัฐฯ แนวโน้มเงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มขึ้นเกือบทั้งปี กระทรวงแรงงานเผยว่า ราคารถยนต์เช่า เพิ่มขึ้น 42.9% ราคาก๊าซเพิ่มขึ้น 42.1% ส่วนเนื้อวัว สัตว์ปีก ปลา และไข่เพิ่มขึ้น 10.5% นอกจากนี้ยังมีราคาสินค้าอีกหลายชนิดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ความผันผวนของราคาสินค้าส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ด้วยเหตุผลหลายประการ ตัวอย่างเช่น ราคารถยนต์พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากการขาดแคลนชิปอย่างต่อเนื่องและสินค้าคงคลังเหลือน้อย ในขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าเดินทางอื่น ๆ ในขณะนี้ แพงกว่าปีที่แล้วมาก เนื่องจากราคาในปีที่แล้วต่ำมาก เพราะแทบจะไม่มีการเดินทางเลยเมื่อมีมาตรการล็อกดาวน์

ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ได้ยืนกรานมานานหลายเดือนว่า เงินเฟ้อจะสูงเพียงชั่วคราว แต่ราคาสินค้าเกือบทุกชนิดก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาก๊าซและน้ำมัน เนื่องจากซัพพลายไม่เพียงพอต่อดีมานด์หลังจากที่เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจใหม่กันมากขึ้นทั่วโลก และยังเกิดวิกฤตพลังงานในจีนและยุโรป หลังจากเกิดอุทกภัยอย่างรุนแรง ซึ่งเท่ากับยิ่งซ้ำเติมให้เงินเฟ้อเพิ่มเร็วขึ้น

รายงานล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เตือนว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางทั่วโลกควรจะเตรียมแผนฉุกเฉิน หากเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นั่นก็หมายถึงว่า จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดเพื่อควบคุมราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น

 ภาพ “แสดงการเงินเฟ้อ” ในเวเนซุเอลา

เนื้อ 1 กิโลกรัม ราคา 9.5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 47.46 บาท

ชีส 1 กิโลกรัม ราคา 7.5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 37.31 บาท

ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป 1 แพ็ค ราคา 8 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 39.93 บาท

กระดาษชำระ 1 ม้วน ราคา 2.6 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 13.09 บาท

พาสต้า 1 กิโลกรัม ราคา 2.5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 12.44 บาท

ไก่หนัก 2.4 กิโลกรัม 1 ตัว ราคา 14.6 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 72.66 บาท

สบู่ 1 ก้อน ราคา 3.5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 17.35 บาท

แป้งข้าวโพด 1 กิโลกรัม ราคา 2.5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 12.44 บาท

แครอท 1 กิโลกรัม ราคา 3 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 15.06 บาท

ข้าวสาร 1 กิโลกรัม ราคา 2.5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 12.44 บาท

ผ้าอนามัย 1 ห่อ ราคา 3.5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 17.35 บาท

มะเขือเทศ 1 กิโลกรัม ราคา 5 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 24.87 บาท

เนยเทียม 1 กระปุก ราคา 3 ล้านโบลิวาร์เวเนซุเอลา = 15.06 บาท