10 อาหารว่างยอดนิยมที่คิดค้นโดยกองทัพสหรัฐฯ / 10 Most Popular Food Snacks invented by the U.S. military

ในช่วงหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา สงครามต่างๆ ในต่างประเทศของอเมริกา มีความจำเป็นต่อการพัฒนาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ การเก็บรักษาที่ยาวนาน ซึ่งจะทำให้กองทัพมีความสุข และมีสุขภาพดี โดยมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย
และต่อไปนี้คือ ผลิตภัณฑ์มีรากฐานมาจากสงคราม อาหารว่างที่อาจทำให้คุณประหลาดใจที่สุด 10 อย่างที่พัฒนาโดยกองทัพ

1. McRib
แซนวิชหมูรสบาร์บีคิว ที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ที่ปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อลดต้นทุนราคาเนื้อสัตว์ ที่ส่งมอบให้กับทหารในสนาม ได้รับการพัฒนาโดยกองทัพสหรัฐฯ ผลพลอยได้จากศูนย์ทหารนาติค โดยการติดกาวเนื้อราคาถูกเข้าด้วยกัน ส่วนใหญ่ประกอบด้วยไหล่หมูบด เพื่อให้ดูเหมือนของที่มีราคาแพง
อาหารจานหลักของกองทัพ ได้เข้าสู่สนามในปี 1976 แต่เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้จดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาเอาไว้ ไม่กี่ปีต่อมา ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแมคโดนัลด์ ได้ใช้กระบวนการนี้ เพื่อสร้างแซนวิชอันเป็นสัญลักษณ์ และเป็นรู้จักในปัจจุบัน

2. Sliced bread
ขนมปังสดนั้นอร่อยมาก แต่ก็มีอายุการเก็บรักษาสั้น ทำให้เกิดปัญหาเหม็นอับและขึ้นรา เมื่อกระทรวงกลาโหมต้องส่งทหารหลายพันนายไปต่างประเทศ เพื่อทำสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็ได้รับการแก้ไข เมื่อนักวิทยาศาสตร์
ประสบความสำเร็จในการยืดอายุการเก็บรักษาขนมปังให้ยาวนานขึ้น นั่นคือเอ็นไซม์ที่ย่อยแป้ง เอ็นไซม์ที่ทนต่อความร้อนจากการอบ และจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปอีกหลายสัปดาห์ ทำให้ขนมปังนุ่ม สด และปลอดภัยที่จะกิน

3. Cheetos
ย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 คราฟท์ฟู๊ด ได้เรียนรู้การทำให้เกลือเป็นอิมัลชันด้วยชีส สามารถสร้างผงชีสที่แห้งและเก็บรักษาได้ สิ่งประดิษฐ์นี้ถูกขายให้กับกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักและปริมาณของการขนส่งอาหาร ไปยังกองทัพในต่างประเทศ
ผงซีสถูกใช้กับทุกอย่าง รวมทั้งพาสต้า มันฝรั่ง และแซนวิช เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ผู้ผลิตอาหารต้องการลูกค้ารายใหม่ บริษัท Frito จึงเปิดตัว cheeto ที่ทำจากแป้งข้าวโพดอบกรอบที่เคลือบด้วยผงชีสครั้งแรก สำหรับตลาดอเมริกา

4. Energy Bars
อาหารพลังงานฉุกเฉินแบบแท่ง เสริมด้วยส่วนผสมจากผลไม้ ธัญพืชและอาหารให้พลังงานสูงอื่น ๆ ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 1969 โดยศูนย์ทหารนาติค ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารสำหรับสุนัข Gaines-Burger ซึ่งเป็นอาหารที่มีความชื้นปานกลางชนิดแรก
โดยยังคงความนุ่มแม้ถูกเก็บเป็นเวลาหลายเดือน โดยนักวิทยาศาสตร์ได้คำนึงถึงสองสิ่ง แท่งนั้นจะไม่ละลายง่าย และรสชาติที่ไม่ดีนัก เพื่อให้แน่ใจว่าทหารจะไม่ต้องการแท่งพลังงานมากเกินไป และจะกินมันก็ต่อเมื่อพวกเขาต้องการจริงๆ เท่านั้น

5. Hawaiian Spam Roll
อาหารที่ประกอบด้วยชิ้นเนื้อหมูกระป๋องย่างหรือทอด คั่นกลางหรือด้านบนชั้นข้าว ห่อร่วมกับโนริ หนึ่งในวิธีการทำอาหารบนเกาะ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อสหรัฐฯ จำกัดการทำประมง และในเมื่อไม่มีปลา แหล่งโปรตีนหลักของชาวเกาะฮาวายก็คือสแปม
ซึ่งมีการส่งหมูกระป๋องหลายล้านกระป๋องให้กับกองทัพสหรัฐฯทุกสัปดาห์ ที่มาของ Spam musubi ยังคงเป็นที่ถกเถียง แต่เชื่อว่าผู้อพยพชาวญี่ปุ่น สร้างสแปมมูซาบิเพื่อพยายามเลียนแบบโอนิกิริ ซึ่งปัจจุบันสามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่ บนเกาะฮาวาย

6. Instant Coffee
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟ นมและน้ำตาลเข้มข้น ถูกผลิตขึ้นสำหรับกองทัพพันธมิตรในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา แต่ไม่ที่นิยมในหมู่ทหารจนต้องหยุดให้บริการในไม่ช้า และในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ยุคของกาแฟสำเร็จรูป
กองทัพสหรัฐฯ เล็งเห็นความจำเป็นที่กองกำลังทหารจะต้องมีคาเฟอีนในระหว่างการเดินทาง ดังนั้นก่อนสิ้นสุดสงคราม สหรัฐฯจึงลงทุนอย่างหนักในการซื้อกาแฟผงสำเร็จรูปจำนวนมาก เทียบเท่า 37,000 ปอนด์ต่อวัน

7. Pringles
มันฝรั่งทอดกรอบ เกิดจากโครงการระหว่างกองพันทหารพราน และกระทรวงเกษตรสหรัฐ เพื่อพัฒนาเกล็ดมันฝรั่งอบแห้ง เป้าหมายทั้งหมดของพริงเกิลส์ คือการหาวิธีที่ทำให้เกล็ดแห้ง จากนั้นจึงปั้นเป็นมันฝรั่งชิ้นเล็กๆ ที่มีรูปร่างเท่ากัน
เบื้องหลังแนวคิดคือชิปจะง่ายต่อการพกพาในกระป๋อง และสามารถเก็บรักษาไว้ได้ยาวนานขึ้น ในระหว่างภารกิจที่โหดร้าย เนื่องจากมันมีไฟเบอร์และแคลอรีสูง กองทัพจึงให้พลังงานแก่ทหารในภารกิจได้มากขึ้นด้วย

8. M&Ms
แนวคิดลูกอมช็อคโกแลตเคลือบน้ำตาล ได้รับแรงบันดาลใจในช่วงทศวรรษที่ 1930 ระหว่างสงครามกลางเมืองสเปน เมื่อ Forrest Mars เห็นทหารกินสมาร์ตตี้ที่ผลิตในอังกฤษ เม็ดช็อคโกแลตเม็ดเล็กๆ ที่มีเปลือกสีต่างๆ
ซึ่งทำจากน้ำตาล เพื่อป้องกันไม่ให้ช็อกโกแลตละลายในฤดูร้อน ในปี 1941 Mars Inc. ได้เริ่มผลิตลูกอม M&M และลูกค้ารายใหญ่รายแรกของบริษัทก็คือกองทัพสหรัฐฯ และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองลูกอมถูกขายให้กับกองทัพเท่านั้น

9. Refrigerated Guacamole
อาหารประเภทเครื่องจิ้ม ทา หรือยำจากเม็กซิโก โดยทำมาจากอาโวคาโดบด ปรุงรสด้วยน้ำเลมอน กระเทียม พริกไทยดำ ผักชี มะเขือเทศสด และส่วนประกอบอื่น ๆ นิยมรับประทานกับตอร์ติยาชิปและทาโก้ การแปรรูปด้วยแรงดันสูง
ได้รับการพัฒนาโดยศูนย์ทหารนาติค ร่วมกับกลุ่มผู้รับเหมาจากมหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรมในทศวรรษ 1990 เพื่อให้อาหารสดมีอายุยาวนาน เก็บรักษาผักและผลไม้สำหรับบริโภค กัวคาโมเล่พร้อมรับประทาน คือหนึ่งผลิตภัณฑ์ในผลิตด้วยวิธีนี้

10. Chef Boyardee
เชฟชาวอิตาลี เปิดโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง โดยผลิตภัณฑ์แรกคือพาสต้ากระป๋อง และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสหรัฐฯ ได้ว่าจ้างบริษัทเพื่อผลิตเสบียงป้อนกองทัพ โดยกำหนดให้โรงงานต้องดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง
ด้วยกำลังสูงสุด บริษัทจ้างคนงานประมาณ 5,000 คน และผลิต 250,000 กระป๋องต่อวัน หลังสงครามสิ้นสุดลง โบยอาร์ดีตัดสินใจขายบริษัทให้กับ อเมริกัน โฮม ฟู๊ดส์ ในปี 1946 ด้วยราคาเกือบ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังคงเป็นโฆษกและที่ปรึกษาของแบรนด์จนถึงปี 1978