ชีวิต หม่อมแต๋ว จีระจันทร์ จากเจ้าหญิงสุขสบาย ตกอับเพราะทำตัว
ชีวิต หม่อมแต๋ว จีระจันทร์ จากเจ้าหญิงสุขสบาย ตกอับเพราะทำตัว
หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนเคยเป็นข่าวดัง สำหรับ ม.ล.จีระจันทร์ เกษมศรี ในวัย 80 ปี ที่มีผู้พบเห็นเธอและสามี ต้องอาศัยอยู่ในบ้านเก่าๆ
จนได้ทราบว่า เธอคือหนึ่งในครอบครัวราชสกุลบั้นปลายชีวิตไม่มีแม้แต่บ้านดีๆให้อาศัย แต่ไม่ขอพึ่งใครเพราะเธอได้บอกว่า ทุกอย่างเพราะเราทำตัวของเราเอง
สำหรับ ม.ล.จีระจันทร์ เกษมศรี เธออาศัยอยู่ที่ จังหวัด สงขลา อาศัยอยู่กับสามีซึ่งทั้งคู่นั้นมีฐานะค่อนข้างยากจน ต้องอาศัยในบ้านหลังเล็กเก่าๆ
ท่ามกลางหญ้าสูงภายในบ้านไม่มีเครื่องใช้มีเพียงที่นอนเก่าและของใช้จำเป็น และถ้าเจอฝนตกหนักไม่ต้องพูดถึงต้องย้ายหนี อยู่กันอย่างลำบากไม่มีใครดูแล
ประวัติของม.ล.จีระจันทร์ นั้นเธอเป็นถึงหลานเหลนของ รัชกาลที่ 5 แต่ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำให้เธอไม่มีแม้แต่ทรัพย์สินเงินทอง อาศัยเพียงเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
และเธอยังได้เปิดเผยอีกว่า ชีวิตไม่ได้ราบรื่น ความเป็นอยู่ไม่ได้ดีขึ้น ไม่มีแม้แต่บ้านอยู่อาศัยเอง เช่าบ้านถูกๆ แต่บ้านหลังนี้เขาให้อยู่ฟรีและทางเทศบาลเมือง เข้ามาซ่อมแซมให้
เธอเล่าว่า ตนเป็นธิดาของ ม.ร.ว.จิราทิพย์ เกษมศรี โดยคุณพ่อ ได้อุทิศตนมาใส่ชุดกาวน์ช่วยเหลือผู้คน ประจำตำบลที่บ้านหูแร่
หลังเกษียณคุณพ่อย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพฯ และจากไปในที่สุด ซึ่งตอนที่ย้ายมาที่ภาคใต้ ตอนนั้นเธอเรียนจบ ม.3 จึงตามคุณพ่อมาอยู่ที่ภาคใต้
และได้แต่งกับ บุญเลิศ และได้มีบุตรทั้งหมด 4 คนแต่สุดท้ายก็จากไปทั้ง 3 คนเหลือเพียงคนเดียว ทำงานเป็นแม่บ้านที่ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่
หลังจากที่ได้เลิกกันกับสามีคนเกี่ยวก็ได้มาพบรักกับ นายรื่น ในตอนนั้นลุงรื่นเป็นคนขับรถเมล์ ช่วงนั้นไม่รู้จะทำอาชีพอะไรเลยตกลงกันทั้งคู่
และได้หันมาค้าขาย ที่ปาดังเบซาร์จึงรู้จักกัน และอยู่ด้วยกันที่ตลาดสะเดา มาตลอดจนถึงทุกวันนี้
และคิดว่าเราสร้างบุญมาได้แค่นี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะตัวเราเอง ตอนนี้ไปไหนก็ไม่ได้ ไม่มีใครดูแล ญาติพี่น้องในครอบครัวของคุณพ่อ เหลือเพียง 2 คนแต่ว่าไม่ขอไปพึ่งใครและไม่คิดจะกลับไปที่กรุงเทพ ขอใช้ชีวิตอยู่ที่นี้ เหมือนผู้สูงวัยทั่วไป แต่ก็ยังดีที่บุตรสาวเพียงคนเดียวของบ้านก็ยังส่งเงินมาให้ใช้เดือนละพันบาท
ถึงแม้ว่าตัวเองจะเกิดในราชกุลก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ถ้าเวลาไปสถานที่ราชกาลก็มีแต่คนมักจะถามว่า เป็นหม่อมจริงหรือ เพราะมีอีกหลายคนที่ไม่เชื่อ ส่วนสามีก็ไม่รู้จนกระทั่งได้เห็นบัตรประชาชน
แต่หลังจากที่ท่านได้เป็นข่าว ก็มีคนเข้ามาช่วยเหลือ ส่งหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือบริจาคที่ดิน สร้างบ้านใหม่ ข้าวของเครื่องใช้ และมอบเงินไว้ใช้จ่าย สร้างความดีใจและประทับใจให้เป็นอย่างมาก