หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กระทรวงทรัพยฯจัดสรรที่ดินเพื่อพี่น้องประชาชนภายใต้แผนปี 2565

โพสท์โดย ธรรมชาติบำบัด

     หลังจากที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำทีมแถลงผลงาน ปี '64 พร้อมประกาศนโยบายปี '65 เดินหน้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว จัดสรรที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้กับชุมชน ภายใต้ โครงการ คทช. ทำไปแล้วกว่า 3.6 ล้านไร่ เพื่อพี่น้องประชาชน ถือเป็นการสร้างเศรษฐกิจครัวเรือน สังคมมีสุข ชุมชนเข้มแข็ง ประกอบด้วย การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ คทช. และพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน รวมทั้งการจัดที่ดินทำกินและอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ การจัดตั้งป่าชุมชน การปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟู ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และการป้องกันไฟป่า รวมทั้งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกให้กับประเทศไทย เพื่อการแบ่งปันคาร์บอนเครดิต ตลอดจนยกระดับมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อเสริมรายได้ให้กับชุมชนรอบพื้นที่ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวหลังการเปิดประเทศ การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตามมาตรการ ขาว-เขียว-เทา การจัดแบ่งระบบกลุ่มหาด การสร้างความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำรวจและจัดทำแผนการจัดการสถานการณ์ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ อปท. ที่มีสถานการณ์รุนแรง และประสานให้มีเตาเผาขยะติดเชื้อครอบคลุมทุกจังหวัด การพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำผิวดินและการพัฒนาขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่ คทช. พื้นที่โครงการในพระองค์และโครงการพระราชดำริ และพื้นที่แล้งซ้ำซาก  คทช.การจัดที่ดินทำกินที่ยั่งยืนแม้ “ไม่ได้กรรมสิทธิ์” แต่ “รับรองสิทธิ” ที่มั่นคง

     ที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชน เปรียบเสมือนหัวใจของคนจน! การมีที่ดินทำกินโดยไม่ต้องหวาดระแวงต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถือเป็นความหวังของชาวบ้านที่มีพื้นที่ทำกินอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนของหน่วยงานราชการ เช่น ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่มักเกิดเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโควิด–19 การมีที่ดินทำกินที่สามารถกลับไปทำกิน ได้อย่างมั่นคง ย่อมเป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้การจัดที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร หรือเขตอนุรักษ์ที่มีความอ่อนไหว เพื่อเร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม โดยจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่ผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน โดยไม่ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ แต่รับรองสิทธิร่วมในการจัดการที่ดินของชุมชน

แต่การจัดสรรที่ดินทำกินให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน เป็นธรรม ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงกลาโหม เพื่อให้การแก้ไขปัญหา ด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศเกิดการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 14 ต.ค.2557 จึงเห็นชอบตามที่ ทส. เสนอให้มีการจัดตั้ง คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งต่อมาได้ออกเป็น พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2562 ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศไทย

การดำเนินงานของ คทช.มุ่งเน้นการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนเป็นหลักในลักษณะแปลงรวม โดยมิให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐเป็นกลุ่ม หรือชุมชน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ คทช.กำหนดในรูปแบบสหกรณ์หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม โดยราษฎรแต่ละรายสามารถถือครองที่ดินได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่เกินรายละ 20 ไร่

“ทส.ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ คทช.และเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ซึ่งมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เป็นกระดุมเม็ดแรกของการจัดที่ดินทำกินให้กับชุม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้เร่งรัดดำเนินงาน เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ การดำเนินการเริ่มตั้งแต่การกำหนดพื้นที่เป้าหมายสำหรับการจัดที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัยให้กับชุมชน รวมถึงให้ความเห็นชอบการตรวจสอบขอบเขตที่ดินตามที่ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด หรือ คทช. จังหวัด ได้ดำเนินการตรวจสอบตามพื้นที่เป้าหมายที่กำหนด จากนั้นจึงส่งต่อไปยังคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ที่จะตรวจสอบรายชื่อของราษฎรที่จะเข้าใช้ประโยชน์และจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนตามหลักเกณฑ์ที่ กำหนด ก่อนที่คณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด ซึ่งรับผิดชอบโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเข้าไปส่งเสริมการ พัฒนาอาชีพและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับชุมชนต่อไป” นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน คทช. กล่าวถึงการดำเนินงานในการแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้ประชาชน

คทช.ดำเนินการตั้งแต่ปี 2558-2564 ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายไปแล้วทั้งสิ้น 4,219,699 ไร่ เกือบทั้งหมดเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีราษฎรอยู่อาศัยทำกินมาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 3, 4, 5 ก่อนมติ ครม. วันที่ 30 มิถุนายน 2541 ใน 64 จังหวัด เนื้อที่ 3,932,534 ไร่ นอกนั้นเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2485 พื้นที่ป่าไม้ถาวร พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่สาธารณประโยชน์ รวมเนื้อที่ประมาณ 270,000 ไร่

     โดยพื้นที่เป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติทั้ง 3.9 ล้านไร่ คทช.จังหวัด ได้เสนอเป้าหมายให้คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินพิจารณาให้ความเห็นชอบไปแล้ว 2.3 ล้านไร่ ซึ่งทางจังหวัดจะต้องยื่นขออนุญาตใช้ประโยชน์จากคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 16 ของ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ โดยปัจจุบันคณะกรรมการฯ ได้มีการให้ความเห็นชอบไปแล้วกว่า 1.9 ล้านไร่ และอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการอีกประมาณ 2 ล้านไร่ เพื่อให้สามารถจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎรในลักษณะ แปลงใหญ่ทั้ง 64 จังหวัด ได้ทันภายในปี 2564

สำหรับ ในส่วนของพื้นที่ที่ได้มีการเห็นชอบอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินเรียบร้อยแล้วในช่วงปี 2558-2564 ได้ออกหนังสืออนุญาตให้ชุมชนเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยไปแล้วกว่า 280

“การดำเนินงานของ คทช.เพื่อจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนในครั้งนี้ เป็นการประสานความร่วมมือที่มีการทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งเมื่อประชาชนได้ที่ดิน ได้สิทธิในที่ดิน ถึงแม้ว่าจะ ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่จะเป็นการสร้างความมั่นใจในการทำกินให้ กับชุมชน ทั้งยังได้รับการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นจากหน่วยงานรัฐได้อย่างถูกต้อง และเมื่อได้สิทธิในที่ดินไปแล้วชุมชนต้องทำตามเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น ต้องไม่มีการเผา มีการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ทั้งนี้ เพื่อสุดท้ายแล้วสามารถตอบกลับไปสู่เป้าหมายของประเทศในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ให้ได้ภายในช่วงปี ค.ศ.2065” นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย

“ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม” มองว่า นโยบายของ คทช.เป็นปัจจัยหลักในการแก้ปัญหาจัดที่ดิน ทำกินให้ประชาชน ได้อยู่ในพื้นที่ป่าอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการ “ให้สิทธิ” ในที่ดินแต่ “ไม่ให้ กรรมสิทธิ์

ถือเป็นการจัดที่ดินทำกินที่ยั่งยืนแก่ชุมชน โดยมีมาตรการ แนวทางและการปรับปรุงกฎหมายที่สอดคล้องกับหลักการเพื่อให้คนอยู่กับป่าได้อย่างเกื้อกูลกับธรรมชาติ.

(ขอบคุณที่มา ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม)

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ธรรมชาติบำบัด's profile


โพสท์โดย: ธรรมชาติบำบัด
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: มยุรี สวยงาม, อัศวิน ดีนะยานะ, ธรรมชาติบำบัด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
7 ลักษณะหน้าตาของจิ๊มิ เรื่องปกติ5 สิ่งที่คุณมีอยู่แล้วน่าอิจฉาแต่คุณอาจไม่รู้ตัวประเทศที่นิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในโลกจากสุสานหลวงสู่กาดหลวงตลาดวโรรสซื้อที่นอนแกะออกแล้วมันไม่ฟู..ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน!ม.ดังปฏิเสธหนุ่มหัวกระทิเข้าเรียน หลังเคยทๅรุณกรรมแมวมาก่อนนกสุดแปลก!!นึกว่าหลุดออกมาจากโลกแฟนตาซีผู้สูงอายุ ที่แท้จริง อายุเริ่มต้นที่เท่าไหร่?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"บีม ศรัณยู" ลั่น! ต่อไปนี้จะไม่มี "บีม พลังใบ"..เพราะจะเลิกกัญชาอย่างถาวรเขมรอ้างกีฬายิมนาสติก มีต้นกำเนิดมาจากเขมร มีหลักฐาน ณ กำแพงนครวัด?สเปกหนูรัตน์ ชอบรวย หล่อแบบเกาหลี5 สิ่งที่คุณมีอยู่แล้วน่าอิจฉาแต่คุณอาจไม่รู้ตัว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เด็กหญิงวัย 15 ถูกเพื่อนรุมแกล้ง ถูกบังคับให้เชือดคอตัวเองนศ.จีน พบคู่รักซั่มในโรงอาหาร ตึกฝั่งตรงข้ามฮามาสฆ่าเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ก่อนขโมยอาหาร เพื่อทำให้อาหารหายากในกาซาเกิดเหตุรถยนต์ไฟไหม้ ที่สนามบินฟิลิปปินส์ เพราะร้อนเกินไป
ตั้งกระทู้ใหม่