ครม. อนุมัติแล้ว! ขึ้นค่าภาษีบุหรี่ 1.25 บาทต่อมวน มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 คลังเผย ห่วงสุขภาพ-ไม่เน้นรายได้
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 17 ) พ.ศ.2564 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (1) ในประเภทที่ 14.01 ยาสูบ ตอนที่ 14 สินค้ายาสูบ ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความใน (ข) ของ (6) ในประเภทที่ 14.01 ยาสูบ ตอนที่ 14 สินค้ายาสูบ ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
นอกจากนี้ รมว.คลัง กล่าว ที่ผ่านมาโครงสร้างภาษีบุหรี่ของไทยอาจยังไม่ค่อยถูกต้อง ทำให้มีการแบ่งตลาดบุหรี่ถูกกับบุหรี่แพง ส่งผลให้บุหรี่ในประเทศขายไม่ออก เพราะโดนบุหรี่ต่างประเทศแทรกแซง ซึ่งกระทบกับการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ที่ส่วนแบ่งการตลาดบุหรี่ลดลง ทำให้ต้องลดการรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกร ทำให้ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังต้องของบประมาณเพื่อชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกใบยา ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังได้ได้กำชับให้กระทรวงการคลังไปดูเรื่องการสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกใบยาปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นทดแทน เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวด้วย
"เรื่องโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ครม.ได้มีการพิจารณาไปแล้ว โดยมุ่งเน้นไปที่สุขภาพของประชาชนมากกว่าเรื่องรายได้ จึงเป็นที่มาว่า ถ้าจะให้คนเลิกสูบบุหรี่ ราคาก็เป็นกลไกหนึ่งที่เป็นตัวกำหนด โดยราคาขายปลีกที่เพิ่มขึ้น จะมีผลต่ออัตราการบริโภคบุหรี่ให้ปรับลดน้อยลงได้ โดยการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ในครั้งนี้ ครม. ได้มีการพิจารณาในหลายมิติ ดูว่าอัตราไหนเหมาะสมและเป็นธรรมที่สุด แม้ว่าอยากจะให้มีอัตราเดียวก็ตาม"
อ้างอิงจาก: http://www.mratchakitcha.soc.go.th/index.php
อ้างอิงจาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/A/065/T_0001.PDF