10 อันดับปืนพกนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 / Top 10 Nazi Germany Pistols Of WW2

ปืนพกหลักที่ได้รับการคัดสรร ซึ่งผลิตโดยผู้ผลิตอาวุธปืนของเยอรมัน และบรรจุโดยแวร์มัคท์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่รวมถึงการออกแบบหรือการนำเข้า ซึ่งผลิตขึ้นสำหรับเยอรมัน โดยผู้ผลิตที่ถูกยึดครอง

1. Luger P08 (Pistole 08)
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ถูกผลิตในหลายรุ่น โดยหลายประเทศ ตั้งแต่ปี 1898 ถึง 1948 ถูกผลิตขึ้นในฐานะปืนพกอัตโนมัติพาราเบลลัม ระบบโบชารด์ท์-ลูเกอร์ โดย DWM ผู้ผลิตอาวุธชาวเยอรมัน รุ่นที่ผลิตครั้งแรก เป็นที่รู้จักกันคือ "โมเดล 1900 พาราเบลรัม"
รุ่นต่อมา รวมถึงปืนพกพาราเบลรัม โมเดล 1908 หรือ P08 ปืนพกพาราเบลรัมรุ่นแรก ถูกใช้โดยกองทัพสวิส ในปี 1900 เข้าประจำการในกองทัพเยอรมัน ปืนถูกปรับปรุงเล็กน้อยเป็น โมเดล 1908(พี08) โมเดล 08

2. Walther P38 (Pistole 38)
ปืนพกแบบกึ่งอัตโนมัติที่ได้ถูกพัฒนาโดย วัลเทอร์ ในฐานะปืนพก ถูกประจำการในกองทัพแวร์มัคท์ ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง มันได้ถูกสร้างขึ้นด้วยความประสงค์ที่จะถูกเข้ามาแทนที่โดยปืนพกลูเกอร์ พี08 ที่มีราคาแพง
ซึ่งกำหนดสิ้นสุดการผลิตในปี 1942 พี.38 ถูกผลิตระหว่างปี 1939 ถึง 1945 การพัฒนาเบื้องต้น เกิดขึ้นในปี 1937 ถึง 1939 ในที่สุดรุ่นแรก จึงกำหนดรุ่น HP ซึ่งมีหลายรูปแบบ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรม

3. Walther Volkspistole
ปืนพกฉุกเฉินของเยอรมัน ได้รับการออกแบบเมื่อราวปี 1944 เนื่องจากการขาดแคลนปืนพกจำนวนมาก โดยประกอบขึ้นจากเหล็กรีดที่เรียบง่ายที่มีชิ้นส่วนกลไกขั้นต่ำ มีเพียงต้นแบบเท่านั้น ที่ผลิตขึ้นก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง
ต้นแบบเหล่านี้มีระบบล็อคที่แปลก ซึ่งนำก๊าซขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อชะลอกระบอกสูบ จนกว่ากระสุนจะออกจากปากกระบอกปืน ปืนต้นแบบบางกระบอกยังถูกโดยเมาเซอร์ และ Gustloff-Werke ซึ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อย

4. Mauser C96 (Construktion)
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ที่ผลิตโดยเมาเซอร์ ผู้ผลิตอาวุธสัญชาติเยอรมัน ตั้งแต่ปี 1896 ถึง 1937 ด้วยคุณลักษณะที่โดดเด่นของซี96 คือกล่องกระสุน จะอยู่ด้านหน้าของไกปืน ลำกล้องยาว สามารถประกอบด้วยท้ายปืนไม้
ซึ่งจะช่วยให้สามารถจับได้อย่างมั่นคง และกลายเป็นปืนไรเฟิลลำกล้องสั้น และด้ามจับปืนที่มีรูปทรงคล้ายกับด้ามไม้กวาด รัฐบาลเยอรมันซื้อ C96 M1930 เชิงพาณิชย์ 7,800 กระบอก ในปี 1940 สำหรับการใช้งานโดยกองทัพ

5. Walther PP (Polizeipistole)
ปืนพกกึ่งสั้นอัตโนมัติ ที่พัฒนาโดยกองทัพเยอรมัน ระบบยิงแบบดับเบิลแอคชั่น แมกกาซีนบรรจุแบบแถวเดียว ลำกล้องเป็นชิ้นเดียวกับโครงปืน ซึ่งทำหน้าที่เป็นไกด์รอดสำหรับสปริงรีคอยล์ รุ่น PP ผลิตขึ้นระหว่างปี 1929 - 1945
ได้รับการออกแบบ สำหรับการใช้งานของตำรวจ และถูกใช้โดยกองกำลังตำรวจในยุโรป ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และต่อมา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนถูกส่งไปยังกองทัพเยอรมัน รวมถึงลุฟท์วัฟเฟอและตำรวจ

6. Walther PPK (Polizeipistole Kriminalmodell)
เวอร์ชั่นที่เล็กลงของ PP มีด้าม ลำกล้องปืนและเฟรมที่สั้นกว่า และลดความจุของแม็กกาซีนลง ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 1931 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วอย่างรวดเร็วในหมู่หน่วยงานตำรวจและมือปืนพลเรือนของยุโรป
เนื่องจากปืนมีความน่าเชื่อถือ และง่ายต่อการปกปิด แต่มีพลังปานกลาง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปืนได้ออกให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเยอรมันระดับสูง นายทหารและบุคลากรทางทหารอื่น ๆ

7. Mauser 1934
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ผลิตโดยเมาเซอร์ ซึ่งปรับปรุงมาจากโมเดล 1910 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพเยอรมันได้ซื้อโมเดลปี 1914 จำนวน 100,000 กระบอกสำหรับกำลังพล และปี 1934
รุ่น 1914 ก็ถูกแทนที่ด้วยโมเดล 1934 แต่เนื่องจากขนาดที่ใหญ่กว่าคู่แข่งหลายอย่าง ยอดขายในปี 1934 จึงตกต่ำ บริษัทจึงตัดสินใจยุติการผลิตในปี 1941 และเลือกใช้ HSc แบบดับเบิ้ลแอ็คชั่นที่มีความคล่องตัวและกะทัดรัดมากกว่าแทน

8. Mauser HSc (Hahn Selbstspanner)
ปืนพกขนาด 7.65 มม. เปิดตัวในนาซีเยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และผลิตจนถึงปี 1977 การผลิตอย่างต่อเนื่องใน 1945-1946 ระหว่างการยึดครองฝรั่งเศส และระหว่าง 1968-1977 โดยเมาเซอร์
Mauser HSc เดิมทีมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นปืนพกเชิงพาณิชย์ ปืนถูกจัดหาโดยกองทัพเรือ กองทัพบกและตำรวจ ปืน HSc ที่ใช้โดยลุฟท์วัฟเฟอ หรือวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สนั้น ได้มาจากคลังของกองทัพบกและตำรวจ

9. Sauer 38H (Hahn)
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาดเล็ก รับการออกแบบในปี 1938 แต่การผลิตแบบต่อเนื่องไม่ได้เริ่ม จนถึงปี 1939 โดย เจ.พี. ซาวเออร์และโซห์น ในปี 1945 Sauer ได้ผลิตปืนไปแล้วประมาณ 200,000 กระบอก
ในสามรูปแบบที่แตกต่างกัน 38H ถูกใช้โดยกองทัพเยอรมัน เช่น ลุฟท์วัฟเฟอ และกองกำลังตำรวจ ในจำนวนเกือบเท่ากับวอลเธอร์ PPK Sauer 38H ผลิตขึ้นเพื่อการทหาร ตำรวจ และตลาดการค้า

10. Steyr M1912
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ที่พัฒนาขึ้นในปี 1911 โดยบริษัท Steyr Mannlicher ของออสเตรีย ได้รับการพัฒนาสำหรับกองทัพออสเตรีย-ฮังการี และนำมาใช้ในปี 1912 และเป็นปืนพกมาตรฐานของกองทัพออสเตรีย - ฮังการีในสงครามโลกครั้งที่ 1
หลังจากเยอรมนี ผนวกออสเตรียในปี 1938 แวร์มัคท์ได้สั่งซื้อเอ็ม 1912 จำนวน 60,000 กระบอก ที่ปรับให้เข้ากับกระสุนปืนพาราเบลลัม 9 มม. ซึ่งยังคงใช้งาน จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง