นายกฯ ย้ำ ราชการต้อง ปรับตัว มองเห็นความต้องการ ปชช.เป็นหลัก
เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมว่า
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าว่า เป็นโอกาสที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน การบูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนทั้งส่วนกลาง และภูมิภาค ตลอดจนแผนงาน แผนคน และแผนงบประมาณ รวมทั้งติดตามข้อสั่งการที่กระทรวงต่าง ๆ ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่าย
ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มดีขึ้น และรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยการทำงานต่อไปให้ยึดหลัก 3 เรื่อง ได้แก่
1 . Hardware คือ โครงสร้างต่าง ๆ แนวคิด นโยบาย งานตามหน้าที่ Function และงาน Agenda
2. Software คือ งานในส่วนที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องที่จะต้องแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เช่น การแก้ไขกฎหมาย แพลตฟอร์มต่าง ๆ การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ความคิดริเริ่มต่าง ๆ
3. การเตรียมการด้านทรัพยากรมนุษย์รองรับโลกยุคใหม่ และหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งเร่งสร้างความเข้าใจว่าจะต้องอยู่กับโควิด (Live with Covid) ประเทศชาติก้าวผ่านภาวะวิกฤตนี้ไปได้
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำภาคราชการต้องปรับตัว ปรับหลักคิด ปรับหลักการทำงานเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ เป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” นำนวัตกรรมต่าง ๆ มาเสริมการทำงาน เป็นภาคราชการที่เปิดกว้าง และเชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน (Open and Connected) ตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการบริหารจัดการน้ำภาพรวมของประเทศว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหา และบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง ทั้งการระบายน้ำ การกักเก็บน้ำ การบริหารจัดการลุ่มน้ำต่าง ๆ ของประเทศ น้ำด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การดูแลน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนอย่างเพียงพอ
การดูแลน้ำในการผลักดันน้ำเค็ม การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง เป็นต้น ภายใต้การบริหาราชการของรัฐบาล สทนช. ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเข้ามาปรับใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถลดการสูญเสียและค่าเสียต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกัน และจัดหาเครื่องมือ ตลอดจนยุโธปรกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น
เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมสถานที่สำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น สถานที่โรงพยาบาล สถานที่ราชการ พื้นที่ธุรกิจ และที่อยู่อาศัยประชาชน เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2564 จำนวน 10 ราย ได้แก่
นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และหม่อมหลวงพัชรภากร เทวกุล เลขาธิการ ก.พ.
ที่บริเวณโถงตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมมอบของที่ระลึกเป็นกรอบรูป ภาพถ่ายนายกฯ คู่กับผู้เกษียณอายุ และมอบหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ด้านหลังเป็น ไอ้ไข่ ศิษย์หลวงพ่อทวด รุ่นเจริญก้าวหน้า มหาเศรษฐี ผ่านพิธีปลุกเสก 3 วาระ ให้เป็นที่ระลึกด้วย
อ้างอิงจาก: http://www.thailandvision.co