คุกโลมาดำ คุกที่ไม่มีใครเคยหนีออกมาได้
ขึ้นชื่อว่าคุกแน่นอนว่ามันมีไว้สำหรับกักขังคนกระทำผิดและคงไม่มีใครอยากไปอยู่แต่มันเป็นที่กักขังอิสรภาพด้านร่างกายและจิตใจหากพูดถึงความโหดเหี้ยมของเรือนจำระดับโลกต้องยกนิ้วให้เรือนจำ Backdrop ฟินหรือเรือนจำโลมาดำ
คุกนี้มีไว้กักขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่โหดร้ายที่สุดของประเทศรัสเซียและเป็นสถานที่คุมขังนักโทษต้องโทษตลอดชีวิตตั้งอยู่บริเวณชายแดนของประเทศคาซัคสถานเป็นหนึ่งในคุกที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซียก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 18 เรือนจำแห่งนี้เคยเป็นโรงพยาบาลสำหรับนักโทษในช่วงเวลาสั้นๆแต่ในปี 2000 รัสเซียได้ปรับปรุงเรือนจำแห่งนี้เป็นเรือนจำที่มั่นคงสูงสุดมีห้องทางที่ออกแบบไว้สำหรับนักโทษมากถึง 1600 คน
คุกแห่งนี้มีประติมากรรมที่เด่นชัดที่สุดก็คือรูปปั้นโลมาสีดำมันจะเป็นชื่อเรียกของทุกแห่งนี้ภายในเรือนจำแห่งนี้มีนักโทษถูกคุมขังอยู่ด้วยกันประมาณ 700 คนซึ่งแต่ละคนเป็นคดีร้ายแรงและโหดร้ายที่สุดอันได้แก่การฆาตกรรมต่อเนื่องฆาตกรรมกินเนื้อมนุษย์และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหากรู้เบื่อที่นักโทษเหล่านี้สังหารมีคนจำนวนทั้งสิ้นกว่า 40 คนชื่อเรือนจำแห่งนี้เข้มงวดในทุกๆเรื่องนี้ระบบความปลอดภัยแน่นหนาและต้องบอกว่าไม่เคยมีนักโทษแม้แต่คนเดียวที่สามารถหลบหนีออกจากคุกนี้ได้ผลทางที่จะสามารถพ้นจากทุกข์ที่ได้ก็คือการเป็นนักโทษชั้นยอดที่มีความประพฤติดีหรือความตายเพียงเท่านั้นภายในห้องขังนั้นมีระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถรู้ความเคลื่อนไหวของนักโทษแต่ละคนได้ตลอด 24 ชั่วโมงความแข็งแรงมากเพราะทำด้วยเหล็กหนาหลายชั้นพร้อมกับมีกุญแจคล้องประตูไว้อีกทีรวมทั้งมีกรงเหล็กเสริมแยกพื้นที่ใช้สอยออกจากประตูและหน้าต่างทั้งหมดนักโทษที่ถูกคุมขังจะต้องอยู่ในห้องขังซ้อนอีกที
โดย 1 ห้องมีขนาด 50 ตารางฟุตมีนัดนวด 2 คนสำหรับอาณาบริเวณของเรือนจำแห่งนี้ไม่มีสนามหญ้าไม่มีโรงอาหารเหล่านักโทษสามารถออกกำลังกายหรือเดินเล่นได้ที่ห้องหนึ่งซึ่งมีกรงเหล็กร้อนเล่นหลายเช่นกันโดยตลอดเวลาที่นักโทษออกกำลังกายทางผู้คุมก็จะตรวจการณ์ตลอดเวลาพร้อมทั้งเช็คว่ามีสิ่งต้องห้ามเข้ามาหรือไม่
ส่วนเรื่องอาหารการกินเหล่านักโทษต้องกินอาหารภายในห้องของตัวเองเท่านั้นโดยมีเจ้าหน้าที่โรงครัวลุงเป็นซุปและขนมปังไปยื่นให้ที่หน้าห้องขังที่นี่ไม่มีห้องชั้นชั้นล่างสุดเพื่อป้องกันการขุดอุโมงค์เพื่อหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งนี้ได้ความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่คือจะตรวจแต่ละห้องขังทุกๆ 15 นาที
แม้ว่าภายนอกจะดูเข้มงวดมากแต่ภายในคุกยังพอมีสิ่งที่สร้างสีสันบ้างเช่นโทรทัศน์หนังสือพิมพ์ห้องสมุดรวมถึงโบสถ์ที่สร้างและทาสีโดยนักโทษเอกสิทธิ์ของนักโทษคือสามารถโทรศัพท์ไปหาญาติและเพื่อนๆได้รวมถึงอนุญาตให้ญาติและเพื่อนเข้าเยี่ยมได้ 4 ครั้งต่อปีโดยแต่ละครั้งจะสามารถเยี่ยมตามกำหนดเวลาได้ 3 วันซึ่งถือว่าไม่ได้เลวร้ายมากนักรวมถึงยังมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้เฉพาะนักโทษเพื่อรายงานต่อผู้คุมทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนนักโทษสามารถทำงานช่างหมายหรือตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อซื้ออาหารและของใช้ส่วนตัวรวมถึงชดใช้ค่าใช้จ่ายให้แก่เหยื่อของตนด้วย
แต่เมื่อถึงเวลาที่นักโทษต้องออกจากห้องขังเจ้าหน้าที่ผู้คุมจะต้องจับตัวนักโทษหรอกนั้นกดตัวให้โค้งไปถึงระดับเซลล์ก่อนจะพาเดินไปยังจุดต่างๆและหากต้องออกไปนอกเรือนจำนักโทษจะถูกปิดตาอย่างมิดชิดโดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษคนได้จดจำและเข้าใจโครงสร้างของเรือนจำอันนำไปสู่การวางแผนการหลบหนีได้และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่มีนักโทษคนใดหนีออกไปจากเรือนจำโลมาดำแห่งนี้ได้แม้แต่คนเดียว
คลิป












