ธนกร แจง นายกฯ ไม่เคยให้ซื้อ ATK ผ่าน WHO พร้อมเร่ง สปสช.กระจายให้ ปชช.
มีรายงานว่า นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่เคยสั่งการให้ซื้อชุดตรวจ ATK ที่ผ่าน WHO ในการประชุม ศบค. และขอให้ สธ. เร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว หากมีปัญหาความขัดแย้งอยู่ในปัจจุบัน ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด
ซึ่งปัจจุบันชุดตรวจ ATK เป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตให้ขายจำหน่ายได้ แต่ละยี่ห้อมีราคาแตกต่างกัน เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในวงกว้างจนไม่สามารถตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ได้อย่างครอบคลุม
รัฐบาลจึงมีนโยบายจัดหา ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้น และไม่เคยมีข้อสั่งการให้ซื้อชุดตรวจ ATK ที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการประชุม ศบค. เนื่องจากในขณะนั้น ยังไม่มีชุดตรวจยี่ห้อใดผ่านการรับรองมีแต่ที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้เฉพาะเท่านั้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึง การจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุดนั้น เป็นไปตามที่คณะกรรมการ EOC ของกระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติให้มีการใช้ ATK เพื่อให้สามารถหาผู้ติดเชื้อได้เร็วมากขึ้น ทั้งแบบ Professional Use / Home Use มี สปสช. เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ อย่างไรก็ตาม สปสช. ไม่สามารถสั่งซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุดเองได้
เนื่องจากมีข้อกฎหมายที่ห้ามสั่งซื้อ จึงใช้กระบวนการสั่งซื้อผ่านกระทรวงสาธารณสุขที่มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรมเป็นคนจัดซื้อ ซึ่ง ATK เป็นเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เมื่อผ่านการรับรองขององค์การอาหาร และยาแล้ว ก็จะสามารถใช้ได้เลย
การจัดซื้อเวชภัณฑ์ของรัฐไม่มีข้อกำหนดใดที่ระบุว่า จะต้องผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการเปิดให้มีสิทธิเข้าประมูล มีผู้เข้าประมูลถึง 17 ราย และผู้ประมูลผ่าน อย. ทุกราย ผู้ที่ได้รับการทำสัญญาคือผู้ที่ประมูลราคาต่ำสุด โดยราคาขึ้นอยู่กับจำนวนในการสั่งซื้อ ซึ่งในที่ประชุม ศบค. ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี คือ เน้นให้มีการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ยึดหลักโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้
โฆษกรัฐบาล ยังได้เปิดเผยว่า สปสช. ได้เตรียมพร้อมกระจายชุดตรวจโควิด ATK 8.5 ล้านชุด สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ และได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทยบริการประเมินความเสี่ยงโควิด-19 บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก่อนรับชุดตรวจ ATK สำหรับผู้ไม่มีมือถือสมาร์ทโฟน ในชุมชนพื้นที่สีแดงใน กทม. กรุงเทพมหานครได้กำหนดไว้ 2,000 ชุมชน จะกระจายผ่านทางผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุข
พื้นที่ กทม. มีชุมชนจำนวน 2,000 ชุมชน กำหนดแจก ATK ชุมชนละ 1,008 ชุด รวมจำนวน 2 ล้านชุดผ่านศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) สำนักอนามัย กทม. ทีมแพทย์อาสาวินิจฉัย และให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ผู้นำชุมชน ในส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อื่นทั่วไป จะกระจายผ่านหน่วยบริการในพื้นที่ ร้านยา คลินิกเวชกรรม และคลินิกพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยระบบ VMI ขององค์การเภสัชกรรมเท่านั้น และหากเกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น จะจัดส่งชุดตรวจ ATK ทางไปรษณีย์ เพื่อลดการเดินทาง และแพร่กระจายเชื้อต่อไป
อ้างอิงจาก: http://www.thailandvision.co