“บิ๊กเดฟ” พร้อม ดรีมทีม “แม่ทัพเกรียง- ผบ.ต้น” ลงพื้นที่แนวชายแดน ตรวจการปฏิบัติงานของศูนย์เฝ้าระวังโควิดฯชายแดนไทย-เมียนมา ระนอง -ชุมพร พร้อม ลาดตระเวนทางน้ำ
“บิ๊กเดฟ” พร้อม ดรีมทีม
“แม่ทัพเกรียง- ผบ.ต้น”
ลงพื้นที่แนวชายแดน
ตรวจการปฏิบัติงานของศูนย์เฝ้าระวังโควิดฯชายแดนไทย-เมียนมา
ระนอง -ชุมพร
พร้อใม ลาดตระเวนทางน้ำ
พลเอกพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค 4 และพลตรี ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5/ ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานของ ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019 ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวทุกมิติ
ทั้งการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว ตลอดจนสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดตามแนวชายแดน เพื่อการประเมินสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ภายใน 2 จังหวัด
หลังจากนั้น ร่วมลาดตระเวนทางน้ำ ตรวจภูมิประเทศแนวลำน้ำและชายฝั่ง จากท่าเทียบเรือแกรนด์อันดามัน ตำบลปากน้ำ ไปจนถึงเกาะสะระณีย์ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัตการทางน้ำ
ซึ่งปัจจุบันศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 โดยกองกำลังเทพสตรี ชุดปฏิบัติการฉลาม และเจ้าหน้าที่ยังจัดกำลังคุมเข้มลาดตระเวณเฝ้าตรวจด้วยการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งกล้อง CCTV ระบบตรวจการจราจรและเฝ้าระวังทางน้ำ (เรดาร์) ทั้งกลางวันและกลางคืนให้สามารถสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบที่จะเข้ามายังราชอาณาจักร
ก่อนเดินทาง ไปยังด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละ ตำบลเขาไชยราช อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค covid -19 และสถานการณ์อื่น ๆ ในพื้นที่ ก่อนมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน ว่า "ด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญด่านหน้าในการดูแลเฝ้าระวัง สะกัดกั้น การกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด
โดยเฉพาะการลักลอบขนยาเสพติด และแรงงานต่างด้าว เข้าสู่พื้นที่ภาคใต้ โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันอย่างเข้มข้น เพราะผู้ทำผิดกฎหมายต่างมีการปรับเปลี่ยนวิธีรูปแบบอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานของด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละเข้มแข็งมาก สามารถสกัดกั้น และจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากเรื่องสิ่งผิดกฎหมายแล้วสิ่งสำคัญที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง นั่นคือการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค โควิด 19 ก็ให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจตราอย่างเข้มงวด อย่าประมาท เพราะขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดน่าเป็นห่วง ต้องช่วยกันป้องกันอย่างเต็มที่" ผู้ช่วย ผบทบ.กล่าว
การลงพื้นที่ตรวจเข้มแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดระนอง และชุมพร นั้น เพื่อเป็นการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์โคโรนา 2019 ตามแนวชายแดนไทยเมียนมาร์ และพิจารณาหารือถึงปัญหาข้อขัดข้องในห้วงที่ผ่านมา
พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติการสกัดกั้น ตามพันธกิจของกองทัพบก 3 ประการ ได้แก่ การเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน การจัดระเบียบพื้นที่ และการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน ด้วยการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกัน สกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกดหมายตามช่องทางธรรมชาติ ให้นำไปสู่การขยายผลจับกุมขบวนการ
ตลอดจน การสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด สินค้าทางการเกษตร สินค้าหนีภาษี เข้ามายังราชอาณาจักร โดยเน้นย้ำกองกำลังเจ้าหน้าที่วางกำลังเฝ้าตรวจ ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความถี่เฝ้าระวังพื้นที่เข้มข้นทุกตารางนิ้ว ทั้งเส้นทางบก เส้นทางน้ำ พื้นที่ตอนนอก ตอนใน โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ตามแนวชายแดนควบคู่กัน เเละให้การช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาส
ขณะเดียวกันขอให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง ติดตามตรวจสอบกระแสข่าวข้อมูลที่เป็นเท็จ การโจมตีจากผู้ไม่หวังดี โดยให้ชี้แจงทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาการลดทอนความร่วมมือ ความเชื่อมั่น และการสนับสนุนของพี่น้องประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ











