กัมพูชาจะผสมวัคซีนเป็นบูสเตอร์ช็อต เพื่อต่อสู้กับโควิด-19
สมาชิกกองทัพกัมพูชาฉีดวัคซีนให้กับบุคคล ในเขตสีแดงด้วยมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ท่ามกลางการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
กัมพูชาจะเริ่มเสนอวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยจะสลับระหว่างวัคซีน AstraZeneca กับวัคซีนโควิด-19 ของจีน เพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของ coronavirus ในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่เริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 12-17 ปี กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เข็มที่ 3 จะถูกเสนอให้กับพนักงานแนวหน้าระหว่าง 500,000 ถึง 1 ล้านคนเป็นสำคัญ
“ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Sinopharm และ Sinovac ควรได้รับ AstraZeneca เป็นยาเสริมครั้งที่ 3 ” ฮุน เซน กล่าวในการปราศรัยที่ออกอากาศทางโซเชียลมีเดีย “สำหรับชาวกัมพูชาที่ได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ควรให้ Sinovac เป็นเข็มที่ 3 ” เขากล่าวเสริม
ฮุน เซน ยังกล่าวด้วยว่า กัมพูชาจะซื้อวัคซีนแอสตร้าเซเนกาเพิ่มเติมผ่านโคแว็กซ์สำหรับการฉีดบูสเตอร์ และวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะใช้ฉีดวัคซีนให้กับชนพื้นเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา
กัมพูชาได้ประกาศล็อคดาวน์ใน 8 จังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทยในสัปดาห์นี้ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลต้าในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวในสัปดาห์นี้ว่ามีการตรวจพบสายพันธุ์เดลต้าในหมู่ผู้อพยพที่เดินทางกลับจากประเทศไทยผ่านพรมแดนทางบกและขณะนี้อยู่ในชุมชนท้องถิ่น
หลี่ ไอหลาน ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำกัมพูชา กล่าวว่า "เรากำลังแข่งกับรูปแบบใหม่ เราต้องดำเนินการในวันนี้ และต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เสียใจในวันพรุ่งนี้" หลี่ ไอหลาน ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำกัมพูชา กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์
กัมพูชาสามารถควบคุมไวรัสได้เกือบทั้งหมดในปีที่แล้ว แต่การระบาดครั้งแรกที่ตรวจพบเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีผู้ติดเชื้อรวม 77,919 ราย เสียชีวิต 1,420 ราย