ร่วมหาทางออกให้ ภูเก็ต Sandbox ในขณะที่มีข่าวด้านลบและบวก ออกมาแบบนี้
ภูเก็ต Sandbox
เอาไงดี?
———
โดย ศ.ดร. ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ
27/07/2564
มีข่าวใหญ่โตเป็นที่ฮือฮาว่าภูเก็ตแซนบ๊อกซ์เริ่มจะมีปัญหา ในฐานะนักวิจัยที่มีส่วนในเรื่องวิจัยท่องเที่ยวที่ได้ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ขอเสนอข้อมูลและมุมมองที่จะเป็นประโยชน์แก่คนทำงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.หากนำข้อมูลการติดเชื้อของคนในประเทศของภูเก็ต และคนที่อยู่ในระบบ sandbox รวมทั้งจำนวนการเสียชีวิตของทั้งหมดด้วยโรคโควิด เราจะพบว่า
1.1 จำนวนคนที่ติดโควิดที่เพิ่มขึ้นมาเป็นการเพิ่มจากคนไทยทั้งสิ้น คนที่ติดเชื้อใน sandbox (ซึ่งรวมคนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศด้วย) มีจำนวนแทบเป็น 0 ตั้งแต่วันที่เปิดแซนด์บ๊อกซ์
1.2 ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เป็นคนไทยมาจากคนภูเก็ตในจังหวัดภูเก็ต + ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ ภายในประเทศ ซึ่งผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ นั้นมีผลตรวจไม่พบโควิดอยู่แล้ว แต่พอมาอยู่ในจังหวัดภูเก็ตและตรวจอีกครั้งกลับพบว่าติดโควิดจึงแสดงตัวเลขในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้าภูเก็ตที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชยอาจรวมคนที่เดินทางมาส่งสินค้า หรือเดินทางเข้าออก ซึ่งไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั้งหมด
1.3 คนภูเก็ตฉีดวัคซีนสะสมครบเข็ม 2 เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีน Sinovacในอัตราร้อยละ 68-69% ณ ข้อมูลปัจจุบัน
แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหน้าด่านก็เริ่มได้รับวัคซีนเข็มสามแล้วในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา คงเพราะตัวเลขการติดเชื้อจากโควิดของคนไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น
1.4 เป็นที่น่ายินดีที่ตัวเลขการตายรายวันด้วยโควิดในภูเก็ตแกว่งอยู่ที่ 0 และ 1 โดยมี 0 เป็นจำนวนมากกว่า และการตายสะสมจากวันที่เปิดแซนด์บ๊อกซ์ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 4 รายเท่านั้น
1.5 ตัวเลขผู้ติดเชื้อของภูเก็ตที่เพิ่มขึ้นรายวันเพิ่มขึ้นจริง แต่หากเทียบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อของจังหวัดที่มีประชากรใกล้เคียงกันจะพบว่าภูเก็ตทำผลงานได้ดีมาก แม้ตัวเลขจะเริ่มสูงขึ้นเพียง 2-3 วันที่ผ่านมา
(โปรดดูข้อมูลในตาราง)
2.คนทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการปรับเปลี่ยนมาตรการใน sandbox อย่างระมัดระวัง แม้ว่าจะทำให้หลายส่วนเห็นว่ายุ่งยาก แต่สำหรับสถิติการตายและการติดเชื้อถือว่ามีการ respond ได้อย่างดีมาก
3. หากสรุปเป็นภาพใหญ่ว่าเราเรียนรู้อะไรจาก sandbox ก็ต้องบอกว่า Sinovac ในระดับ herd immunity 60-70% ทำงานได้ผล และแม้จะ “กันติดไม่ได้ก็กันตายได้จริง” (เน้น! ระดับ heard immunity 60-70% ) ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้จาก sandbox ในการทดลองนี้
4. ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นความกังวลของสาธารณชนว่าภูเก็ตจะไปต่ออย่างไร แต่หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการทดลองนี้ และพยายามให้ภูเก็ตไปรอดต่อได้ ท่านควรพิจารณา
4.1 จัดสรรวัคซีนคุณภาพให้แก่บุคลากรสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบันจัดสรร AZ เป็นเข็มสามได้ที่ 7,000 เข็ม ควรพิจารณาเพิ่มโควต้าโดยเร่งด่วน
4.2 จัดสรรวัคซีน mRNA ให้กับบุคลากรขนส่ง และคนทำงานที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้มากขึ้น ปัจจุบันทราบว่าได้รับการจัดสรรจากสภากาชาดไทย 5,000 เข็ม ซึ่งส่วนกลางจำเป็นที่จะต้องพิจารณาเพิ่มโควต้าในส่วนนี้ให้เร็วที่สุด
4.3 พิจารณาจัดสรรวัคซีนจากส่วนกลางให้เป็นวัคซีนเข็มสามแก่”บุคลากรทั่วไปใน sandbox” เนื่องจากคนส่วนใหญ่ได้รับ sinovac เป็นเวลานานมากแล้ว และเริ่มมีข้อเท็จจริงว่า sinovac ป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ไม่ดี
ในส่วนนี้ควรจัดสรร priority วัคซีนใหม่ควบคู่ไปด้วย โดยจัดการฉีดวัคซีนให้กับคนทำงาน 18-59 ปี โดยเน้นคนที่ต้องออกไปพบปะผู้คน แม่ค้าในตลาด พนักงานส่งของ ฯลฯ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ติดเชื้อมากที่สุด และนำไปติดคนสูงวัยและเด็กมากที่สุด sandbox จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าเราหยุดวงจรการแพร่เชื้อได้ด้วยวิธีคิดนอกกรอบเดิมๆ
4.4.พิจารณขอวัคซีนไฟเซอร์ที่เป็นชนิดเดียวในไทยที่ได้รับอนุมัติฉีดในเด็ก 12-18 ปี ฉีดให้กับเด็กและเยาวชนภูเก็ต และเดินหน้าเปิดโรงเรียนเต็มรูปแบบเพื่อการเรียนรู้จาก sandbox และต่อยอดไปสู่พื้นที่อื่น
4.5 การจัดการในข้อ 4.3-4.4 ควรตั้งอยู่บนหลักการที่จะทำให้ sandbox คงอยู่ต่อไปได้บนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว คล้ายกับหลักการที่ฉีดวัคซีนให้กับคนภูเก็ตก่อนคนในจังหวัดอื่นเมื่อตอนเริ่มโครงการ
5. หลักการสำคัญของภูเก็ต sandbox ก็คือการทดลองทำการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจของคนในพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต โดยความร่วมมืออย่างแข็งขันของคนในชุมชน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ททท. สกสว. และภาคเอกชนที่มุ่งหวังว่าเราจะเรียนรู้อะไรจากภูเก็ต และจะนำไปต่อยอดอย่างไร
ผู้เขียนเองไม่ใช่คนภูเก็ต แต่เป็นนักวิชาการที่เห็น sandbox นี้เป็นความหวังและทางออกของปัญหาที่เราถกเถียงกันในเชิงการเมืองและเชิงวิชาการไม่ว่าจะเป็น effecacy ของวัคซีน หรือ effectiveness ของ priority วัคซีนที่จะฉีดให้ผู้สูงวัยหรือคนทำงานก่อน รวมทั้งการพิสูจน์ในเชิงวิชาการอีกมากมาย (หากมีข้อมูลมาให้เราวิเคราะห์)
อยากเห็นรัฐช่วยเหลือให้สุดสาย เพราะคนทำงานกับ Sandbox นี้ตั้งใจมาก คนรอเชียร์ที่ไม่ส่งเสียงก็ยังมีอีกมากเช่นกัน
===============
ป.ล. 1.ตอนนี้หลักเกณฑ์ได้มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศแล้ว โดยจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ให้ครบ ได้แก่ วัคซีนครบโดส (รวมผู้หายจากการป่วยโควิดไม่เกิน 90+ วันและมีผลตรวจไม่ติดโควิดเท่านั้น)
2. ข้อมูลที่ไม่ได้นำมาวิเคราะห์คือคนติดเชื้อจากต่างประเทศ คือ ALQ + เรือยอร์ช ทั้งหมด 0 ราย/วันเป็นส่วนมาก และสะสมที่ 1 คน ณ ปัจจุบัน
ALQ คือ นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ทั้งคนไทยและต่างชาติซึ่งหลักเกณฑ์ไม่ครบตามที่กำหนดไว้ จึงต้องมาอยู่เต็ม 14-15 วัน ดังนั้นจะจ่ายเงินเพื่อกักตัว อยู่ในโรงแรม โรงพยาบาลคู่สัญญา โรงพยาบาล อบจ. ภูเก็ต มีการเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ไม่สามารถออกไปไหนได้
เรือยอร์ช คือ ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มาจากต่างประเทศ เป็นเรือที่กักตัวอยู่กลางทะเล แต่มีการทำโรงพยาบาลคู่สัญญาตรวจหาเชื้อและดูแลกันกลางทะเลเลย (มีทั้งเรือที่มาจากต่างประเทศและจากของภูเก็ตพาไปกักตัวกลางทะเล)
3. ข้อมูลผู้ติดเชื้อในแซนด์บ็อกซ์ในกราฟคือ นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งจะเป็นได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่เข้ามาแบบตรงตามหลักเกณฑ์ทั้งหมด
4. โครงการ sandbox รับผู้ป่วยกลับบ้านมาจากจังหวัดอื่นๆ ด้วย