พระพุทธรูปปางแปลก (Ep.2)
วัดพระปฐมเจดีย์ ซึ่งที่ระเบียงคดของวัดนี้นั้น จะประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ กว่า 66 ปาง ซึ่งบางปางก็ไม่ได้หาชมได้ง่ายๆ
๓๓.ปางโปรดพุทธมารดา
หลังจากทรงแสดง ยมกปาฏิหาริย์แล้ว ก็ได้เสด็จไปจำพรรษา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และได้แสดงธรรม โปรดพระนางสิริมหามายา ที่สิ้นพระชนม์แล้วจุติไปเป็นเทพบุตรบนสวรรค์
๓๔.ปางเปิดโลก
หลังจากจำพรรษา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ครบ ๓ เดือนแล้ว ก็ได้เสด็จลงมา ในวันนั้น ทรงเปิดโลกทั้งสาม คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรกให้เห็นกันหมด
๓๕.ปางลีลา
เป็นปางขณะเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พร้อมด้วยพระอินทร์ และพระพรหมที่มาส่งเสด็จ
๓๖.ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์
๓๗.ปางห้ามพระแก่นจันทน์
พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้ทรงสร้างพระพุทธรูปจากแก่นจันทน์ขึ้น เพื่อเคารพ ในช่วงที่พระพุทธเจ้า ไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จลงมา และได้ไปเยี่ยมพระเจ้าปเสนทิโกศล พระแก่นจันทน์นั้น ได้ลอยออกจากที่ เพื่อให้พระพุทธเจ้าประทับ พระพุทธเจ้าทรงยกพระหัตถ์ เพื่อห้ามไม่ให้พระแก่นจันทน์ลอยไปที่อื่น
๓๘.ปางขัดสมาธิเพชร
ตอนที่ทรงรับหญ้าคา จากโสตถิยะพราหมณ์ ได้ทรงประทับ ในท่าขัดสมาธิเพชร และทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า หากไม่บรรลุ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ จะไม่ทรงทำลายบัลลังก์นี้ ต่อมาก็ได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า
๓๙.ปางพระอิริยาบถยืน
ก่อนออกบิณฑบาต หรือไปในกิจนิมนต์ทุกเช้า พระพุทธเจ้า จะทรงยืน ที่หน้าพระคันธกุฎี เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของหมู่่สงฆ์ ก่อนจะออกเดินทาง
๔๐.ปางประดิษฐานรอยพระบาท
มีอยู่หลายเหตุการณ์ เช่น ทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาท เพื่อให้พญานาค ได้สักการบูชาตามคำขอ
๔๑.ปางขอฝน
ขณะนั้น นครสาวัตถีเกิดแห้งแล้ง สระบัว ในพระเชตวันมหาวิหารก็แห้งขอด พระพุทธเจ้า จึงทรงผ้าอาบน้ำฝน และอยู่ในพระอิริยาบถอย่างในภาพ ซึ่งเป็นการเรียกฝน แล้วฝนก็ตกลงมา ปางนี้ มีทั้งแบบประทับนั่งและยืน
๔๒.ปางสรงน้ำฝน
หลังจากฝนตกลงมาแล้ว พระพุทธเจ้า ก็ทรงได้สรงน้ำฝนกลางแจ้ง ได้ตามพระประสงค์
๔๓.ปางชี้อสุภะ
มีโสเภณีนางหนึ่ง ชื่อว่า นางสิริมา เป็นคนที่สวยมาก แต่ต่อมาก็เสียชีวิตลง พระพุทธเจ้า โปรดให้ทิ้งศพของนางไว้แบบนั้นจนเน่า เมื่อชายหนุ่ม ที่เคยหลงใหล มาเห็นศพของนาง ต่างก็ไม่มีใครเอา มีแต่คนรังเกียจ พระพุทธเจ้า จึงทรงแสดงธรรม ชี้ให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของสังขาร
๔๔.ปางชี้มาร
พระโคธิกะเถระได้นิพพาน มีมารตนหนึ่ง ได้เที่ยวตามหาวิญญาณ ของพระโคธิกะ แต่ก็ไม่พบ เพราะได้นิพพานไปแล้ว พระพุทธเจ้า ก็ได้ทรงชี้ให้ภิกษุทั้งหลายดู และเทศนาสั่งสอน
๔๕.ปางปฐมบัญญัติ
พระสุทิน ได้ร่วมประเวณีกับภรรยาจนมีบุตร ตามคำขอร้องของพ่อแม่ ที่ต้องการผู้สืบสกุลและรับมรดก แต่พระสุทิน ไม่สบายใจ จึงนำเรื่องนี้ ไปเล่าให้พระรูปอื่นฟัง เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบ จึงได้ทรงบัญญัติวินัยข้อแรกของสงฆ์ คือหากเสพเมถุน ต้องขาดจากความเป็นพระทันที
๔๖.ปางขับพระวักกลิ
พระพุทธเจ้า ทรงขับพระวักกลิ ที่ตอนแรก บวชเพียงเพราะพึงใจ ในพระสรีระอันงดงาม ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ต่อมา พระวักกลิ ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ และได้รับการยกย่อง จากพระพุทธเจ้า ว่าเป็นเอตทัคคะ ผู้เป็นเลิศ ในการหลุดพ้นด้วยความศรัทธา
๔๗.ปางสนเข็ม
พระพุทธเจ้าและเหล่าสงฆ์ ช่วยกันสนเข็ม และเย็บจีวร ให้แก่พระอนุรุทธะ ซึ่งจีวรเก่ามากแล้ว
๔๘.ปางประทานพร
เมื่อพระพุทธเจ้า ทรงแต่งตั้งพระอานนท์ เป็นพุทธอุปัฏฐาก ประจำพระองค์แล้ว พระอานนท์ ก็ได้ขอพร ๘ ประการจากพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ก็ทรงให้พรตามนั้น
๔๙.ปางโปรดช้างนาฬาคีรี
พระเทวทัต ได้ปล่อยช้างนาฬาคีรี ที่กำลังตกมัน และถูกมอมเหล้าไปอีก ๑๖ ไห ออกมาหมายจะให้สังหารพระพุทธเจ้า แต่ด้วยพระบารมี ของพระพุทธเจ้า ทำให้ช้างนาฬาคีรีสงบลง และได้ทรงแสดงธรรม โปรดช้างนาฬาคีรีด้วย
๕๐.ปางโปรดพญาชมพูบดี
พญาชมพูบดี เป็นกษัตริย์ ผู้อิจฉาพระเจ้าพิมพิสาร ที่มีปราสาทราชวังใหญ่โตสวยงามกว่า จึงมารุกรานข่มเหง พระเจ้าพิมพิสาร จึงไปพึ่งบารมีพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า จึงทรงเนรมิตพระองค์เอง ให้อยู่ในร่างกษัตริย์นามว่า พระเจ้าราชาธิราช ทรงเนรมิตคณะสงฆ์ เป็นขุนนางอำมาตย์ และเนรมิตพระเชตวันมหาวิหาร เป็นปราสาทราชวัง พญาชมพูบดี ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ต่อพระพุทธเจ้าหลายอย่าง แต่ก็สู้ไม่ได้ จึงยอมแพ้ ภายหลังพระพุทธเจ้า ได้คืนร่างเดิม และแสดงธรรมโปรด พญาชมพูบดี จนขอบวช
๕๑.ปางปาลิไลยก์
พระพุทธเจ้า ทรงระอาที่พระภิกษุ ในวัดโฆสิตาราม เกิดทะเลาะวิวาทกัน จึงเสด็จไปจำพรรษาในป่า แถบหมู่บ้านปาลิเลยกะ มีช้างป่าเลไลยก์และลิง คอยมาปรนนิบัติ จนต่อมาก็ได้มีคณะสงฆ์ อาราธนาพระพุทธเจ้า ให้เสด็จกลับไป ยังพระเชตวันมหาวิหารดังเดิม ทำให้พญาช้างเสียใจ จนล้มลงขาดใจตาย ณ ที่นั้น
๕๒.ปางโปรดอสุรินทราหู
อสุรินทราหู ต้องการฟังพระธรรมเทศนา จากพระพุทธเจ้า แต่ก็เห็นว่าตนเอง ตัวใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงแสดงอาการไม่นอบน้อม พระพุทธเจ้า จึงทรงเนรมิตพระวรกาย ให้ใหญ่กว่าอสุรินทราหู และอยู่ในพระอิริยาบถ อย่างในภาพ
๕๓.ปางโปรดอาฬวกยักษ์
กษัตริย์แห่งนครอาฬวี ต้องส่งนักโทษประหาร ให้อาฬวกยักษ์ กินทุกวันตามสัญญา เมื่อนักโทษหมด ก็ส่งเด็กไปให้กิน จนสุดท้าย เหลือแต่โอรสของกษัตริย์ จึงจำต้องส่งไป ให้อาฬวกยักษ์กิน แต่พระพุทธเจ้า ทีทรงทราบเรื่อง จึงเสด็จไปโปรด อาฬวกยักษ์ จนเกิดดวงตาเห็นธรรม
๕๔.ปางโปรดองคุลิมาลโจร
๕๕.ปางประทานอภัย
พระเจ้าอชาตศัตรูเคยหลงผิด ไปเข้ากับพระเทวทัต เมื่อสำนึกผิดแล้ว ได้มากราบขอขมา ต่อพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ก็ทรงประทานอภัยให้
๕๖.ปางโปรดพกาพรหม
พกาพรหม มีความคิดว่าทุกสิ่งในโลกนั้นเที่ยงแท้ ซึ่งขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า โปรดให้พกาพรหม แสดงฤทธิ์ไปซ่อนตัว แต่ไปที่ไหน พระพุทธเจ้า ก็ทรงรู้ตลอด ต่อมา พระพุทธเจ้า ทรงแสดงปาฏิหาริย์ ให้พระองค์หายไป เหลือแต่พระสุรเสียง และตรัสว่า กำลังเดินจงกรมบนเศียรของพกาพรหม พกาพรหม จึงยอมลดทิฐิ และฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า
๕๗.ปางปลงกรรมฐาน หรือ ปางชักผ้าบังสุกุล
พระพุทธเจ้า ทรงปรารถนา จะนำผ้าขาวห่อศพมาย้อม เป็นผ้าสังฆาฏิ จึงเสด็จไปทำปฏิกูลสัญญา ทรงชักผ้าบังสุกุล แล้วนำมาซัก ตากให้หมดกลิ่นศพ
๕๘.ปางพิจารณาชราธรรม
ในขณะที่พระพุทธเจ้า ทรงมีพระชนมายุ ๗๙ พรรษา ได้ทรงปราศรัยเรื่องความชรา ของพระวรกายแก่พระอานนท์
๖๐.ปางแสดงโอฬาริกนิมิต
พระพุทธเจ้า ทรงแสดงโอฬาริกนิมิต แก่พระอานนท์ คือการกล่าวว่าผู้ใด ที่ปฏิบัติอิทธิบาท ๔ จนชำนาญแล้ว หากปรารถนา จะมีชีวิตอยู่ถึงหนึ่งกัป ก็ย่อมทำได้ ถึง ๑๖ ครั้ง แต่พระอานนท์ ก็ไม่ได้เฉลียวใจ ทูลขอให้พระพุทธเจ้า ทรงดำรงพระชนม์ชีพต่อ
๖๑.ปางห้ามมาร
พญามารได้อาราธนา ขอให้พระพุทธเจ้าปรินิพพาน แต่พระพุทธเจ้า ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นห้ามมาร และตรัสว่า พญามาร อย่าได้เกรงใจพระองค์เลย พระองค์จะปรินิพพาน ในอีก ๓ เดือนข้างหน้านี้
๖๒.ปางนาคาวโลก
ในพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้า ก่อนเสด็จออกจากกรุงเวสาลี พระพุทธเจ้า ได้ทรงทอดพระเนตร มองนครเวสาลี และตรัสว่า นี่เป็นครั้งสุดท้าย ที่พระองค์จะได้เห็นนครเวสาลีนี้
๖๓.ปางรับอุทกัง
พระพุทธเจ้า ทรงมีอาการกระหายน้ำ จึงโปรดให้พระอานนท์ ไปตักน้ำจากแม่น้ำแถวนั้น แต่พระอานนท์ทัดทาน เพราะเพิ่งมีเกวียนข้ามแม่น้ำไป น้ำยังขุ่น ขอให้เสด็จต่อไปอีกหน่อย จะมีแหล่งน้ำสะอาด แต่พระพุทธเจ้า ก็ยังให้พระอานนท์ ไปตักน้ำจากแม่น้ำนั้น ปรากฏว่า เมื่อพระอานนท์กำลังจะตัก น้ำที่ขุ่นก็กลับใสสะอาด ราวกับกระจก จึงได้ตักไปให้พระพุทธเจ้า
๖๔.ปางทรงพยากรณ์
ก่อนพระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน พระอานนท์ ได้เศร้าโศกเสียใจ พระพุทธเจ้า จึงทรงตรัสเทศนาสั่งสอนพระอานนท์ ถึงความไม่เที่ยง และทรงพยากรณ์ว่าพระอานนท์ จะได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ก่อนที่จะเริ่ม มีการทำปฐมสังคายนา
๖๕.ปางโปรดสุภัททะ
ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน ได้มีชายหนุ่มนามว่า สุภัททปริพาชก ได้มาขอเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อถามในข้อสงสัย พระพุทธเจ้าจึงได้แสดงธรรม ทำให้สุภัททะ เกิดดวงตาเห็นธรรม และได้ขอบวช ก่อนจะสำเร็จ เป็นพระอรหันต์ในคืนนั้น นับว่าสุภัททะ เป็นพระภิกษุรูปสุดท้าย ที่ได้บวชกับพระพุทธเจ้า
๖๖.ปางปรินิพพาน