ตอนนี้‘เงินบาท’ กลายเป็นสกุลเงินที่ ‘แย่ที่สุด’ ในเอเชีย อ่อนค่าลงถึง 10%
‘เงินบาท’ กลายเป็นสกุลเงินที่ ‘แย่ที่สุด’ ในเอเชีย หลังอ่อนค่าลงกว่า 10% : Mizuho Bank ระบุในหมายเหตุเมื่อวันศุกร์ว่า “ผลงานที่ด้อยประสิทธิภาพอย่างไม่เคยมีมาก่อนของสกุลเงินบาท ทำให้เป็นค่าเงินที่แย่ที่สุดจนถึงปัจจุบันในปี 2564”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารมิซูโฮ (Mizuho Bank) เปิดเผยว่า ในปี 2564 เงินบาทเคยเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในเอเชียก่อนเกิดโรค Covid-19 ได้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นสกุลเงินที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในปีนี้ในภูมิภาค โดยชี้ว่า “ผลงานที่ด้อยประสิทธิภาพอย่างไม่เคยมีมาก่อนของสกุลเงินบาททำให้เป็นผลงานที่แย่ที่สุดในปี 2564”
ตามข้อมูลของ Refinitiv Eikon ระบุว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยเทียบเป็นรายปี ณ เช้าวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2564
ตามรายงานของ Refinitiv เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ จากต่างเมื่อ 2 ปีก่อนอย่างลิบลับ สกุลเงินของไทยมีประสิทธิภาพต่ำที่สุดในปีนี้ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เงินเยนของญี่ปุ่นลดลงเกือบ 7% ริงกิตมาเลเซียลดลง 5% ในขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลง 4.43% เมื่อเทียบเป็นรายปี
CNBC รายงานว่า ในปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มีความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากดุลการค้าที่สูง ค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นทำให้การส่งออกของประเทศไทยมีราคาแพงขึ้น ทำให้น่าดึงดูดน้อยลงในตลาดต่างประเทศ
จนกระทั่งเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจไทยที่แย่อยู่แล้ว ต้องมาแย่ลงซ้ำเพราะการหดตัวลงกระทันหันของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ โดยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวคิดเป็นประมาณ 11% ของ GDP ของไทยในปี 2562 ก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่ง CNBC รายงานว่า นักท่องเที่ยวที่น้อยลง ยังส่งผลกระทบให้ความต้องการเงินบาทที่ลดลงด้วย