ขยะล้นประเทศ เพราะถูกบังคับนำเข้าเครื่องมือแพทย์ 'มือสอง'
ขยะล้นประเทศ เพราะถูกบังคับนำเข้าเครื่องมือแพทย์ 'มือสอง'
- - - - -
ปัจจุบันไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เปิดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์จากนานาชาติตาม 'สนธิสัญญาบาเซล' ว่าด้วยการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมและมีการจัดการอย่างถูกต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2541
.
แต่ทั้งนี้หลาย ๆ บริษัทที่นำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ยังมีวิธีจัดการอย่างไม่ถูกกฎหมาย คือ แยกชิ้นส่วนที่มีค่าออกไปและกำจัดชิ้นส่วนที่ไม่มีมูลค่าด้วยการฝังกลบ ซึ่งชิ้นส่วนที่ถูกฝังกลบเหล่านั้นเป็นชิ้นส่วนที่มีสารพิษเป็นส่วนประกอบ ส่งผลให้สารพิษกระจายสู่สิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดมลพิษได้
.
นอกจากความตกลงตามสนธิสัญญาบาเซลแล้ว ไทยยังได้ลงนามทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นกับไทย (JTEPA) เมื่อปี 2551 เป็นการเปิดเสรีให้มีการเคลื่อนย้ายข้ามแดนสำหรับของเสียอันตรายทุกประเภท รวมทั้งจากการศึกษาของ FTA Watch พบว่า กระทรวงอุตสาหกรรมยังอนุญาตให้นำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศได้อีกถึงปี 2567 และประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามพิกัดศุลกากรทั้งหมด 428 รายการ ก็ยังเปิดช่องให้มีการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นของเสียอันตรายบางรายการเข้ามายังไทยได้ตามปกติอีกด้วย
.
จากประเทศที่มีนโยบายและกฎหมายการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมไม่เข้มแข็งอยู่แล้ว ประกอบกับยังมีปัญหาในด้านความไม่โปร่งใสในการบังคับใช้กฎหมาย จึงทำให้ปัจจุบันประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยกำลังกลายเป็นแหล่งรองรับการถ่ายโอนขยะหรือของเสียอย่างเต็มรูปแบบ
.
หากไทยเข้าร่วมกับ CPTPP แล้ว... ในอนาคตไทยจะกลายเป็น 'ถังขยะโลก' หรือเปล่า ???
|
เรื่องนี้อาจไม่เกินจริงไปสักเท่าไร ก็เพราะจากเงื่อนไขในข้อตกลงฯ ที่ระบุว่า 'ห้ามปฏิบัติต่อสินค้าที่ปรับสภาพเป็นของใหม่ (remanufactured goods) เหมือนสินค้าใช้แล้ว' ทำให้ประเทศสมาชิกต้องยอมรับสินค้าเหล่านี้ โดยเฉพาะเครื่องมือทางการแพทย์
.
ทำให้ไทยต้องแก้ไขกฎหมายเพื่ออนุญาตให้มีการนำเข้าสินค้าเหล่านี้ได้
.
เมื่อมีการนำเข้าก็ย่อมมีบางโรงพยาบาลที่อาจจะต้องการลดต้นทุน จึงไปหาเครื่องมือแพทย์ที่ใช้งานแล้วมาใช้แทน ประกอบกับในไทยยังไม่มีหน่วยงานที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญที่จะดูแลมาตรฐานของเครื่องมือแพทย์ที่ใช้แล้วเหล่านี้ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ อาจจะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและการรักษาโรคผิดพลาดได้
.
นอกจากนี้ ด้วยอายุการใช้งานของเครื่องมือแพทย์ 'มือสอง' จะมีอายุการใช้งานที่สั้นมาก หากเป็นของใหม่อาจจะใช้ได้ 44 ครั้ง เมื่อถูกปรับสภาพเป็นของใหม่อาจจะใช้ได้เพียง 11 ครั้ง เมื่อมีอายุการใช้งานสั้นก็มีปัญหาขยะจากเครื่องมือแพทย์เหล่านี้ และไทยเองก็ยังขาดระบบจัดการและกำจัดขยะเหล่านี้ จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นตามมาได้