(คลิป)ไล่เรียงเหตุการณ์ #กราดยิงรพสนาม เรียงตั้งแต่เริ่ม ยันถูกจับ
รวบอดีตทหารคลั่งรัวยิง2ศพ อ้างเคยป่วย-เครียดถูกกดดัน
ไล่เรียงเหตุการณ์ #กราดยิงรพสนาม เรียงตั้งแต่เริ่มยันถูกจับ
อดีตทหารคลั่งบุกยิงพนง.เซเว่นฯกลางกรุงดับอนาถ ก่อนบึ่งรถไปกราดยิงที่โรงพยาบาลสนาม สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี เป็นผู้ป่วยโควิดดับอีกศพ หนีไปจนมุมที่ระนอง ตร.กล่อม 2 ชั่วโมง ยอมมอบตัวญาติเผยเคยรักษาอาการป่วยด้าน ทบ.เร่งสอบข้อเท็จจริงปมอ้างเคยถูกครูฝึกทำร้าย พ้นทหารไปแล้ว2ปี
เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 24 มิถุนายน ได้เกิดเหตุคนร้ายแต่งกายด้วยชุดลายพรางทหารก่อเหตุบุกใช้อาวุธปืนยิงใส่พนักงานร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นที่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 25 กทม.จนเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไป หลังจากนั้นคนร้ายยังได้บุกเข้าไปก่อเหตุยิงผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลสนามสถาบันธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยที่รักษาตัวโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียชีวิตอีก 1 ราย
ทั้งนี้ ภายหลังก่อเหตุถึง 2 เหตุอุกฉกรรจ์ดังกล่าวแล้ว คนร้ายได้ขับรถกระบะหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุทันทีต่อมา ตำรวจ ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีพฤติการณ์เป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน
ได้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ จนทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคนร้ายรายนี้คือนายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี เป็นอดีตทหารเกณฑ์ คาดว่าน่าจะมีอาการทางประสาท
จากนั้นในช่วงสายวันเดียวกัน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบตัวคนร้ายรายนี้ในพื้นที่ จ.ระนอง
ได้สืบสวนติดตามคนร้ายโดยมีการประสานญาติเพื่อให้ช่วยเจรจากับคนร้าย ต่อมานายกิตติ แสงนิลกุล อายุ 61ปี บิดาของนายกวิน ผู้ก่อเหตุ ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าได้พูดคุยกับลูกชายมาตลอด คาดว่าลูกชายน่าจะเกิดความเครียดส่วนตัว ซึ่งลูกชายเคยเป็นทหารหน่วยรบพิเศษป่าหวาย จ.ลพบุรี เคยฝึกคอบบร้าโกลด์ เมื่อครั้งเป็นทหารเกณฑ์ จึงมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน
กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดล้อมบ้านพักของญาติคนร้าย ภายหลังคนร้ายรายนี้เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ โดยอยู่ห่างจาก อ.กระบุรี ประมาณ 1-2 กิโลเมตร แต่ยังไม่บุกเข้าไปภายใน ยังคงรอให้คนร้ายอารมณ์สงบลง และยังมั่นใจว่าคนร้ายจะยอมมอบตัว
เวลาประมาณ 12.18 น.นายกวิน คนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ ได้ยอมออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ หลังจากถูกปิดล้อมและมีการเจรจาเกลี้ยกล่อมเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมกับได้มอบอาวุธปืน 2 กระบอกด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมทันที
บิ๊กใหม่สอบปากคำอดีตทหารเกณฑ์ จับสวมชุดPPE ป้องกันเชื้อโควิด
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ได้บินด่วนมายังสภ.ปากน้ำ จ.ระนอง เพื่อสอบปากคำนายกวิน ด้วยตัวเอง
โดยระหว่างสอบปากคำตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาสวมชุด PPE เพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำระนอง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืนซิกซาวเออร์ ตราโล่ และปืนลูกโม่ ของกลาง รวม 2 กระบอกพร้อมกระสุนปืน แจ้งข้อหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.สั่งการให้ พล.ท.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ สอบข้อเท็จจริงกรณีอดีตทหารรายนี้ผู้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งมีข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุได้อ้างว่ามีความเครียดหลังจากถูกกดดันจากอดีตผู้บังคับบัญชา ส่วนการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่าเคยเป็นพลอาสา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ปลดประจำการเดือนพฤศจิกายน 2562 มีบุคลิกลักษณะเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบอาวุธปืน และชอบดูภาพยนตร์สงคราม
ผบ.ทบ.สั่งต้นสังกัด สอบครูฝึกอดีตทหารเกณฑ์ ยันระหว่างฝึก ไม่เคยทำร้ายร่างกาย
“ผบ.ทบ.” สอบข้อเท็จจริงเหตุ อดีตทหารเกณฑ์คลั่งอ้างถูกทำร้ายช่วงเป็น “พลอาสาจู่โจม” ขณะที่ครูฝึกยันไม่เคยทำร้ายร่างกาย เปิดประวัติ หน่วยก้านดี เป็นผู้บังคับหมวด ชอบปืน-ดูหนังสงคราม เผยมารดาเพิ่งแจ้งภายหลังว่าลูกเคยรักษาอาการป่วย
ส่วน ผู้บังคับกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ ได้เรียก จ.ส.อ.ยงยุทธ สุขเกษม อดีตครูฝึกของคนร้ายรายนี้มาสอบถามหลังจากมีข้อมูลว่าสาเหตุเกิดจากความไม่พอใจที่ถูกครูฝึกทำร้ายในช่วงที่อยู่ค่ายทหาร ซึ่ง อดีตครูฝึก ยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายร่างกายและปฏิบัติตามกรอบการฝึกทหาร 10 สัปดาห์ และผู้ก่อเหตุเป็นทหารที่มีผลการฝึกค่อนข้างดี ไม่พบประวัติป่วยทางจิตก่อนเข้ามาเป็นพลทหาร แต่มารดาผู้ก่อเหตุเคยให้ข้อมูลว่าช่วงที่เข้าประจำการเคยรักษาอาการป่วยและหายเป็นปกติแล้ว
แหล่งข่าวจากทบ.ระบุว่าหน่วยต้นสังกัดกำลังรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดจากการสอบครูฝึก เพื่อนและรุ่นพี่ โดยทางครูฝึกยืนยันว่าไม่เคยซ้อมหรือทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ แต่ต้องสอบข้อเท็จจริงอีกว่า ช่วงการฝึกปรับพื้นฐานกองพันจู่โจมที่ต้องฝึกหนัก ทดสอบความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เพราะหากมีการกระทำเกินกว่าเหตุ แล้วสอบสวนพบความผิดจริง ก็จะต้องพิจารณาลงโทษ อีกทั้งนโยบายของกองทัพในปัจจุบันเคร่งครัดในเรื่องนี้ มีการกำชับไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงกับทหารใหม่ อย่างไรก็ดี กลับมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ผ่านมาแล้ว2 ปีทำไมถึงถูกนำมาอ้างในการก่อเหตุในครั้งนี้
เปิดปมในใจอดีตทหารเกณฑ์คลั่ง ฟังพ่อเล่าเกิดอะไรขึ้น ตอนอยู่ในค่ายทหาร
พ่อของมือปืนมาให้ปากคำตำรวจที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ตอนหนึ่ง ว่า ก่อนเหตุเหตุลูกออกจากบ้านสี่ทุ่ม ไม่รู้ออกไปทำอะไร มารู้อีกทีตอนตำรวจโทรมาบอก
พ่อมือปืนเล่าว่า เท่าที่ลูกชายมีเรื่องคับแค้นใจอยู่สองเรื่อง ตอนเกณฑ์ทหาร อยู่ในค่ายทหาร เขาโดนรังแก โดยโดนครูฝึกซ้อมเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ และโดนครูฝึกที่ติดยาซ้อมตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ทำให้เขาคับแค้นใจ เป็นเรื่องที่ที่เก็บกดมานาน ได้เตือนลูกว่าอย่าไปทำคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง หลังลูกปลดประจำการ มาทำงานเอกสาร คอมพิวเตอร์ให้กับญาติ ระหว่างนี้ได้ทำวีซ่าจะไปอเมริกา ถ้าได้ไปจะอยู่ที่นั่นเลยไม่กลับมาแล้ว แต่มาเกิดเรื่องเสียก่อน
เพื่อนเผย ทหารเกณฑ์คลั่ง เตรียมบินไปสหรัฐ เรียนยิงปืน-สไนเปอร์
หนุ่ม กรรชัย ได้สัมภาษณ์ แอม เพื่อนของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายกวินมา 2-3 ปี และไม่มีทีท่าจะก่อเหตุเช่นนี้ โดยเจอกันล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนั้นไม่มีอาการอะไรเลย ยังคุยกันปกติเรื่องงานและจะเดินทางไปสหรัฐ โดยไม่มีท่าทีอะไรรุนแรง ไม่เคยทราบว่ามีประวัติรักษาทางจิตเวชมาก่อน เท่าที่คุยก็ปกติดี
ส่วนที่นายกวินบอกว่าจะไปสหรัฐนั้น ทราบว่าจะไปเรียนยิงปืนและสไนเปอร์ เพราะอนาคตอยากเป็นครูสอนยิงปืน กระทั่งมาทราบข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วง 9 โมงที่ผ่านมา ตอนแรกตกใจมาก และได้โทรไปคุยทันที โดยนายกวินบอกว่ามีคนด่าผมเต็มไปหมดเลย เลยพยายามบอกให้นายกวินใจเย็นๆ กระทั่งทราบข่าวว่ามอบตัวแล้ว
นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต สำหรับผู้ก่อเหตุที่จับกุมได้แล้วจะต้องสอบสวนหาสาเหตุและดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก