สถานการณ์โรงรับจำนำ เวลานี้ คนเต็ม
นายสาธิต เหมทานนท์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ผลกระทบ ทำให้ประชาชนขาดรายได้ หลายครอบครัวจำต้องนำสิ่งของเข้าโรงรับจำนำเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินนำไปซื้อสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิต ส่วนสินค้าที่รับจำนำส่วนใหญ่เป็นทองคำรูปพรรณ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมูลค่าและแปลงเป็นเงินได้ง่าย มีทั้งกลุ่มชาวบ้าน เกษตรกร ผู้มีอาชีพค้าขายหรือข้าราชการ ซึ่งสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์เป็นกิจการของรัฐคิดดอกเบี้ยราคาถูกในอัตราร้อยละ 0.25 ต่อเดือน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท
ส่วนของที่จำนำเป็นของเบ็ดเตล็ดมากขึ้น เช่น เครื่องมือช่าง เลื่อย สว่าน กบไสไม้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบอาชีพ แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานเหล่านี้ถูกเลิกจ้างหรือไม่มีงานหรือบางรายนำเรือประมงพื้นบ้านอุปกรณ์เรือมาจำนำ แต่เนื่องจากเป็นของที่มีเลขทะเบียนไม่สามารถรับจำนำได้
ปัจจุบันผู้ใช้บริการโรงรับจำนำส่วนใหญ่เป็นรายย่อย เช่น พนักงาน ลูกจ้างร้านอาหาร สถานประกอบการท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งของที่นำมาจำนำบางชิ้นมีราคาไม่กี่ร้อยบาท เช่น นาฬิกา ราคารับจำนำ 200 บาท หม้อหุงข้าว 200 บาท ซึ่งแตกต่างจากช่วงก่อน ที่มีลูกค้ารายใหญ่สิ่งของจำนำที่มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นขึ้นไป
ขณะนี้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ได้สำรองเงินสดเพิ่มจาก 50 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท เพื่อรองรับการจำนำและไถ่ถอนก่อนเปิดภาคเรียน ซึ่งแต่ละวันมีประชาชนมาใช้บริการกว่าวันละ 100 คน ยอดรับจำนำไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ล้านบาท