สิ่งที่น่าห่วงคือ! ต้องรับมือคลัสเตอร์โรงเรียน หลายจังหวัดจะพบการแพร่ระบาดในโรงเรียนแล้ว
ผลการเปิดเทอมของโรงเรียนทั่วประเทศ ถ้าเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ประมาณ 29000 โรงเรียน ซึ่งสามารถคัดกรองผู้เรียนก่อนเปิดเทอมได้ดี รักษามาตรการควบคุมโรคระบาดได้ดี ส่วนใหญ่จะเปิดเทอมประมาณต้นเดือนมิถุนายน ยังไม่พบปัญหาการแพร่ระบาดโควิด
แต่พอวันที่ 14 มิถุนายน เปิดเทอมเต็มระบบ ปัญหาเริ่มพบแล้ว โดยเฉพาะโรงเรียนในเขตเมืองทั้งของรัฐและเอกชน เช่น โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม
ขณะนี้หลายจังหวัดจะพบการแพร่ระบาดในโรงเรียนแล้ว เช่น มหาสารคาม เป็นต้น
ข้อเสนอผมก็คือ
1)โรงเรียนขนาดเล็กที่เปิดไปแล้ว ไม่พบปัญหาก็ให้สอนปกติได้ แต่ต้องเข้มในการควบคุมโรคระบาด สร้างให้เป็นวิถีใหม่ผู้เรียน โรงเรียน ผู้ปกครอง หมู่บ้าน อย่าประมาท การ์ดอย่าตก
2)โรงเรียนขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ทั้งของรัฐและเอกชน ทั้งประถมและมัธยม ต้องปิดทันทีที่พบการระบาด กลับไปทบทวนนโยบายการควบคุมโรคระบาดใหม่ ตั้งแต่การเดินทางไปโรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง รถยนต์รับ-ส่งผู้เรียน ความแออัดห้องเรียน ควรใช้โรงเรียนขนาดเล็ก ที่ไม่มีนักเรียนหรือมีนักเรียนน้อย แบ่งไปเรียนบางช่วงชั้น การคัดกรองผู้เรียน ผู้ปกครองที่มาส่ง คนขับรถต้องเข้มข้นมากกว่าปกติ
3)สถานศึกษาใดผ่านการคัดกรองแล้วมั่นใจ ก็ให้เปิดเรียนได้แบบควบคุมพิเศษ จากฝ่ายสาธารณสุข จังหวัด ท้องที่ ท้องถิ่น ผู้บริหารและครู ประเมินทุกวัน ทุกสัปดาห์ร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน ประหนึ่งมีวอรูมโรงเรียนเฉพาะกิจ
4)บางวิชาหรือบางกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดควรเว้นไว้ก่อนทั้งโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ขึ้นไป เช่น กีฬาสี คอนเสิร์ต งานเลี้ยงส่ง รับ เป็นต้น