หิวแล้วมาพังครัวไม่ได้นะพ่อ!!พลายบุญช่วย
พลายบุญช่วย” ช้างป่าละอู พังครัวรื้อหาอาหารกินอย่างสบายใจ
วันที่ 20 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นางรัชฎาวรรณ ผึ้งประสพพร หรือบิ๊ก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า เมื่อช่วงตี 2 ที่ผ่านมาขณะตนนอนหลับสนิทอยู่กับครอบครัวภายในบ้านปูนชั้นเดียว
ต้องตกใจตื่นกับเสียงโครมครามคล้ายของสิ่งของตกหล่นภายในครัว
จึงออกมาดูถึงกลับตกตะลึงพบช้างป่าละอูจำได้ว่าเป็น “พลายบุญช่วย” ช้างป่าละอูที่ออกหากินตามชุมชนอยู่เป็นประจำ
กำลังใช้หัวมุดกำแพงครัวที่พังเป็นรูใหญ่ใช้งวงรื้อหาของกินอย่างจ้าละหวั่น จนหม้อ-กระทะตกหล่นกระจาย
โชคดีช้างติดเคาเตอร์ครัวเข้ามาในบ้านไม่ได้ ตนตะโกนขับไล่พร้อมนำโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้
หลัง “พลายบุญช่วย” รื้อหาของกินจนหนำใจแล้วได้เดินหายไปกับความมืดจนรุ่งเช้าจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
สำหรับ “พลายบุญช่วย” ก่อนหน้านั้นราว 2 เดือน ได้เข้ามาหากินถึงบ้านพักตนคงได้กลิ่นอาหารก่อนใช้หัวดันกำแพงปูนและฝ้าหลังคาบ้านจนพังทลายมูลค่าเสียหายเกือบ 5 หมื่น
หลังเกิดเหตุได้แจ้งให้ ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ทราบแต่เรื่องก็เงียบไป
หลังจากนั้น “พลายบุญช่วย”ก็ย้อนกลับเข้ามาหาของกินที่บ้านตนอีกหลายครั้งตรงจุดเดิม ซึ่งตนพยายามเก็บอาหารให้มิดชิดไม่ให้มีกลิ่น ก็ยังไม่วายถูกช้างบุกเข้ามาอีกและครั้งนี้สามารถถ่ายภาพได้ทัน
นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี กล่าวว่าได้รับรายงานจาก นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เรื่องช้างป่าออกหากินพังบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย พร้อมสั่งการให้ทางอุทยานฯประสาน อบต.ช่วยเหลือวัสดุก่อสร้าง
โดยใช้ จนท.อุทยาน ทหารทัพพระยาเสือ สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า(WCS)ประเทศไทยช่วย ซ่อมแซมบ้านให้แล้ว
สำหรับช้างป่าที่มีพฤติกรรมดื้อไม่ตอบสนองต่อการขับไล่และการผลักดันของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีพฤติกรรมชอบเดินบนถนน
และหาออกกินในชุมชนเวลากลางคืน สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาระหว่างช้างกับคนให้เข้าไปอยู่ในป่าลึกห่างชุมชน
ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีหนังสือเพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่รบกวนประชาชนเป็นไปอย่างรอบคอบ รัดกุม ถูกต้องเหมาะสม มีข้อมูลครบถ้วน
ได้อนุมัติให้คณะเจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ติดตามพฤติกรรม
โดยเสนอการติดปลอกคอติดตามตัวสัตว์สัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) เพื่อทราบเส้นทางการเคลื่อนที่การหากินทางด้านนิเวศวิทยาเพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้ช้างเข้าสู่เขตชุมชน รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเหมาะสมของพื้นที่รองรับที่จะนำช้างไปปล่อยทั้งในด้านความสมบูรณ์ของพื้นที่ แหล่งน้ำ-อาหาร และประชากรช้างป่า.
ที่มาเฟสบุ๊ครัชฎาวรรณ ผึ้งประสพ
คลิกดูวิดีโอในเฟส
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=547242966686669&id=100042029113535&sfnsn=mo