"อาจารย์เจ" ถามเจ็บ "ดร.อานนท์" ป.เอก โพสต์ไร้ทักษะการคิด
อาจารย์ เจ หรือ ผศ.ดร.พัทธจิต ตั้งสินมั่นคง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ ญี่ปุ่น ถาม "ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์" ทีละข้อ ชี้ เรียนถึงปริญญาเอก แต่โพสต์ไร้ทักษะการคิด โดยระบุว่า
อ่านสเตตัสนี่จบ ทำให้เราสงสัยในความหมายของการเรียนปริญญาเอก
เคยเข้าใจว่า ที่สังคมให้ค่าและฟังคนที่เรียนจบ ป. เอก เพราะ การเรียนปริญญาเอกนอกเหนือจากจะเป็นบททดสอบองค์ความรู้ที่เรามีในแต่ละสาขาวิชาแล้ว แล้วยังเป็นกระบวนการที่ทุกคนน่าจะเกิด
1. critical thinking skill การตั้งคำถามและหาคำตอบอย่างมีเหตุผล
2. problem solving skill เพราะต้องแก้ปัญหาจากกระบวนการตั้งคำถามที่งอกขึ้นมาตลอดเวลา และ
3. perseverance ความอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพราะต้องอยู่กับ self-doubt ตลอดเวลาว่าสิ่งที่ทำอยู่มีคุณค่าจริง ๆ ไหม...งานวิจัยก็ออกมาว่าคนเรียน ป. โท เอกมีอัตราเผชิญภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไป 6 เท่าตัว
ไม่เข้าใจว่า คนที่เคยผ่านกระบวนการแบบนี้มา ก่อนจะพิมพ์ status นี้ออกมา ทำไมถึงไม่เกิดคำถาม
"ผมไปทำงานเป็น adjunct assistant professor สอนนักศึกษาปริญญาเอกในโรงเรียนบริหารธุรกิจที่ Zicklin school of business, Baruch College, City University of New York."
คำถาม 1: ถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมเหยียดคุณ และมองคุณเป็นพลเมืองชั้นสองจริง เค้าจะให้คุณเป็น adjunct assitant professor สอนนักเรียนปริญญาเอกได้อย่างไร?
"กูเป็นคนไทย จากประเทศไทย ไม่ใช่คนจีน หรอกหนา ไอ้มืดตัวดำปี๋ มันโกรธมาก ความรู้สึกคือ โห คนดำ เป็นพลเมืองชั้นสองของอเมริกา ยังเหยียดและดูถูกเรา แล้วเราเองเล่าจะเป็นพลเมืองชั้นไหนกันแน่"
คำถาม 2: เราถูกเหยียดเพราะเราเป็นคนไทย เราเป็น “พลเมืองชั้นสอง” เพราะเราเป็นต่างชาติและเอเชีย หรือเพราะคนที่เหยียดคุณมีโลกทัศน์ที่คับแคบและค่านิยมที่บิดเบี้ยว?
"พร้อมกับคำถามในใจว่า เราจะมาอยู่ทรมานเป็นพลเมืองชั้นสามชั้นสี่ในที่ๆ ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของเราไปทำไม"
คำถาม 3: การที่คุณบอกว่าคุณเป็น "พลเมืองชั้นสอง สาม สี่ ห้า" คุณได้สิทธิรักษาพยาบาล สิทธิในการใช้ชีวิตในสหรัฐ ต่างจากพลเมืองอย่างไร? และคุณแน่ใจเหรอ ว่าคนอย่างคุณและเรา ไม่ใช่พลเมืองชั้นสามชั้นสี่ในบ้านตัวเอง?
"วันหนึ่งอากาศหนาวมาก ผมจะเข้าบ้านเช้า เลยถอดถุงมือเพื่อให้จับลูกกุญแจไขลูกบิดได้ถนัด เอามือเปล่าจับประตูแล้วเนื่องจากหนาวเย็นจัดมาก มือเปล่าๆ เลยเกิดน้ำแข็งเกาะติดกับลูกบิดประตู ผมต้องก้มเอาลมปากร้อนๆ เป่ามือจนเอามือออกจากลูกบิด"
คำถาม 4: คุณผ่านกระบวนการทดสอบความอดทนที่ทำให้มีอัตราเผชิญภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไป 6 เท่าตัว แต่คุณยอมแพ้ให้กับลูกบิดประตูที่น้ำแข็งเกาะในอากาศหนาวเหน็บ ที่มันคาดเดาได้และแก้ปัญหาได้ด้วย problem solving skill ง่าย ๆ?
"แต่ถ้าเรายึดมั่นในการทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง ผมเชื่อมั่นว่าแล้วความดีจะคุ้มครองเรา อยู่ที่ไหน ทำเพื่อใครก็ไม่เท่ากับทำให้แผ่นดินเกิด"
คำถาม 5: การเรียกคนเห็นต่างว่า “ขยะ” และเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้ถูกกำจัดก่อนจะให้ทหารอออกมาทำรัฐประหาร คือ “การยึดมั่นในการทำดีเพื่อชาติบ้านเมือง”?
"ฝากให้คนชังชาติที่คิดจะไปอยู่บ้านเมืองอื่น ชาติอื่น แล้วสักวันคุณจะเข้าใจ"
คำถาม 6: คุณทราบมั้ยว่ามีคนไทยที่รักชาติมากมายที่เลือกที่จะอยู่เมืองนอก เพราะมันช่วยเป็นกระบอกเสียง ช่วยสร้าง recognition ให้ประเทศไทยได้มากกว่าการอยู่ในประเทศ?
https://www.facebook.com/patt.tangsinmunkong/posts/10158081084272703