เล่าเรื่องเตือนใจ ห้องสอบสวนโรคโควิด-19 ครั้งที่2

วันนี้ขอเล่าให้ฟังสัก 5 เรื่องครับ ถ้ามีโอกาส จะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมต่อนะครับ

1. พนักงานโรงงาน รายหนึ่ง นั่งทานข้าวใกล้ชิดกับผู้ร่วมงาน ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 จากการเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อรายหนึ่งโดยไม่คิดว่าผู้ร่วมงานที่สนิทคุ้นเคยจะติดเชื้อ ผลปรากฏว่า ต้องมีการกักตัวผู้ใกล้ชิดทั้งผู้สัมผัสร่วมรถตู้ รถบัส ผู้ร่วมงานใกล้ชิด บุคคลในครอบครัวเดียวกัน รวมทั้งสิ้น 32 ราย

: เรื่องนี้เตือนใจ รู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่รู้ว่าใครติดโควิด-19บ้าง มีเป็นเพื่อนสนิท ก็อาจเป็นโควิด-19 ได้ ดังนั้น ต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดกระจายตัวต่อไป

2. ชวนเพื่อนมาร่วมวงกินหมูกระทะที่บ้าน ต่อมาทราบผลว่าเพื่อนติดเชื้อโควิด-19 แต่จนเองยังไม่มีอาการ แต่แฟนของตน เริ่มมีอาการ คือ จมูกไม่ได้กลิ่น จึงไปตรวจแล้วพบเชื้อโควิด และเมื่อตนเองไม่ตรวจก็พบว่าติดเชื้อโควิดเช่นเดียวกัน

: เรื่องนี้เตือนใจ ไม่ควรร่วมวงสังสรรค์ ทานอาหารร่วมกันเพราะเราไม่รู้ว่าใครติดเชื้อโควิดมาบ้าง และเราเองก็จะมีโอกาสนำเชื้อไปแพร่กระจายให้คนอื่น และหากมีคนมีคนไม่ระมัดระวังเช่นนี้จำนวนมากจะมีการระบาดไปกว้างไกลเกินกว่าที่จะควบคุมไว้ได้

3. ไปพูดคุยนอนเล่นกับเพื่อนสนิท ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นผุ้คิดเชื้อโควิด-19 และต่อมา ได้นำไปติดเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนและต้องกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดอีกหลายคน รวมทั้งบุคคลที่อยู่ในครอบครัว

:เรื่องนี้เตือนใจว่า ในสถานการณ์การระบาด ไม่ควรเข้าไปพูดคุยใกล้ชิดหรือไม่นอนเล่นด้วยเพราะเราจะไม่ทราบว่าผู้ใดติดเชื้อโควิด-19หรือไม่ และนำเชื้อไปติดบุคคลอื่นๆ รวมทั้งคนในครอบครัวด้วย และคนอื่นๆ ก็จะได้รับความเดือดร้อน ต้องกักตัวไปหลายคน

4. ผู้หญิงอาชีพพิเศษให้บริการลูกค้า วันละ 2 คน ต่อมาเริ่มมีอาการไม่สบาย จึงไปตรวจโควิด-19 ที่รถพระราชทาน พบว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งไม่สามารถที่จะจำลูกค้าหรือติดตามลูกค้าที่สัมผัสเสี่ยงด้วยได้ทั้งหมด

: เรื่องนี้เตือนใจ ว่าลักษณะอาชีพผู้หญิงพิเศษ ให้บริการลูกค้าลักษณะนี้ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 และแพร่กระจายเชื้อต่อไปในวงกว้างได้ง่าย เนื่องจาก มีความใกล้ชิดกันมาก และไม่สามารถติดตามผู้สัมผัสได้หมด จึงขอความร่วมมือ ลดการแพร่กระจายเชื้อจากสาเหตุดังกล่าวนี้

5. มีการให้สวัสดิการอาหารกลางวันกับเจ้าหน้าที่ในออฟฟิศ แต่เป็นลักษณะบุฟเฟ่ต์ มีการใช้ทัพพีตักข้าวร่วมกัน พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 1 คน ในออฟฟิศ และมีการติดเชื้อไปยังคนอื่นเพิ่มขึ้น และต้องกักตัวผู้สัมผัส ในออฟฟิศนั้น

:เรื่องนี้เตือนใจว่า จุดสัมผัสร่วม เป็นจุดที่สามารถแพร่เชื้อได้ แม้จะนั่งทานอาหารห่างกันไม่ได้ใกล้ชิดกัน

ขณะนี้ยังมีการสังสรรค์ในหมู่เพื่อนสนิทในกลุ่มเล็กๆและยังมีการทานอาหารใกล้ชิดกันในออฟฟิศ สถานที่ทำงาน หรือใกล้ชิดกันกับเพื่อนสนิทซึ่งจะไม่ทราบว่าใครติดเชื้อโควิด-19มาแล้วบ้าง ขอให้ทุกท่านเคร่งครัดในมาตราการส่วนบุคคล อยู่ห่างกัน หมั่นล้างมือ แมสต์ต้องใส่ เชื้อเข้าทางจมูก ปาก ตา หากเราไม่จับหน้าโดยไม่ล้างมือ โอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อมีน้อย รวมทั้งมาตราการองค์กรอย่างเคร่งครัด เลิกงานไม่สังสรรค์ อาหารไม่ทานใกล้ชิดด้วย ป่วยต้องหยุด จุดสัมผัสร่วมต้องทำความสะอาดบ่อยๆ หากทุกท่านร่วมมือร่วมใจจะช่วยยับยั้งการระบาดในกว้างได้ การควบคุมการระบาดเป็นหนเาที่ของทุกท่าน

โปรดติดตามเรื่องเล่าเตือนใจครั้งต่อไปครับ