ณัฐวุฒิ เล่า แม่เพนกวิน ร่ำไห้ ยื่นประกันตัวลูกอีกครั้ง ทวงสิทธิประกันตัว “ราษฎร” ลั่น ถ้ามีคนตายในห้องขัง จะบันทึกในประวัคิศาสตร์
ณัฐวุฒิ เล่า แม่เพนกวิน ร่ำไห้ ยื่นประกันตัวลูกอีกครั้ง ทวงสิทธิประกันตัว “ราษฎร” ลั่น ถ้ามีคนตายในห้องขัง จะบันทึกในประวัคิศาสตร์อย่างไร วันนี้ (29 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณี พริษฐ์ ชิวารักษ์ ฟรือเพนกวิน อดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิพื้นฐาานในการประกันตัว ออกมาต่อสู้คดีจากการปราศรัยทางการเมือง มากว่า 45 วัน และร่างการทรุดโทรมอย่างหนัก อาจจะส่งผลต่อชีวิต โดยระบุว่า
เล่าเรื่องนี้ให้ฟังเพื่อบอกว่าแม้เป็นอำนาจอิสระของศาล แต่ท่าทีของรัฐบาลน่าจะมีนัยสำคัญต่อการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องขังด้วย โดยเฉพาะคดีที่เกิดจากการต่อสู้ทางการเมือง ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจอย่างนี้
คำถามคือ รัฐบาลคิดอย่างไร
นายกฯพูดหลายหนว่ารัฐบาลไม่เกี่ยว แล้วตัวอย่างที่ผมเล่ามาควรไตร่ตรองดูหรือไม่ สมมติว่าเปลี่ยนจาก พล.ต.สนั่น วันนั้นเป็น พล.อ.ประวิตร วันนี้ผลจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้คาดคั้นต่อตัวบุคคล แต่เห็นว่าเหตุการณ์มาถึงวันนี้ถ้ารัฐบาลยังเพิกเฉยก็เท่ากับจะปล่อยให้เด็กค่อยๆตายไปทีละคนในคุกหรือไม่ แล้วประเทศจะได้อะไรนอกจากรอยแผลลึกของยุคสมัย
จากสภาพร่างกาย สถานการณ์โควิด 19 กระทั่งบริบทของการต่อสู้ ได้ประกันออกมาก็ไม่ใช่จะเคลื่อนไหวอะไรได้ง่ายๆ ยังไม่นับเงื่อนไขหากศาลจะกำหนดก็อาจจำกัดบทบาทพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง เพนกวิน รุ้ง และเพื่อนๆอดอาหารจนได้ประกันตัวก็ใช่ว่าจะชนะเพราะการต่อสู้ยังอีกยาวไกล รัฐบาลขยับตัวช่วยเหลือก็ไม่แพ้ เพราะเมตตาต้องมาจากผู้เป็นใหญ่ ศาลก็รักษาสถานะไว้ได้ท่ามกลางความขัดแย้งที่แหลมคม
ปล่อยเด็กออกมารักษาตัว ให้สู้คดีอย่างเต็มที่เสียเถิด ถ้ามีคนตายในห้องขังแม้แต่องค์กรศาลก็ไม่รู้จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์อย่างไร เพนกวิน รุ้ง และเพื่อนๆอดข้าวเท่ากับกดดันและทำร้ายตัวเองจะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่พวกเขาทำเพื่อเรียกร้องการประกันตัวซึ่งเป็นสิทธ์โดยชอบตามกฎหมาย เป็นวิถีการต่อสู้ที่ต้องเคารพและเข้าใจ
สถานการณ์ไปไกลมากแล้ว อย่าให้เลวร้ายไปกว่านี้เลยครับ
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/politics991/photos/a.112306483711166/313762750232204/