ผีตาโขน
ประวัติ/ ความเป็นมา/ ความสำคัญ
ผีตาโขน เป็นประเพณีที่เริ่มต้นกันมาตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้าได้ปรินิพาน เนื่องจากขณะนั้นคาดกันว่าจะมีมาร และปีศาจร้ายทั้งหลายจะมาทำร้ายพระบรมศพของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น จึงได้ให้คนแต่งตัวเป็นผีมาเฝ้าศพเอาไว้ เพื่อให้มารและปีศาจได้เห็นว่า มีผีสางเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มารักษาพระศพของพระองค์ จะได้ไม่กล้ามาทำอะไร สำหรับประเพณีผีตาโขนของชาวเผ่าลัวะนี้ ได้จัดกันทุกๆ ปี คือ จะจัดในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เป็นเวลา 15 วัน พร้อมกันนั้น ก็จะถวายตุง เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ชาวบ้านจะนำเอาเสาตุง นำมาตวงข้าวสาร เพื่อไม่ให้สิ้นเปลือง เชื่อกันว่าจะทำให้ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังป้องกันโรคระบาดของสัตว์ต่างๆ เช่น เป็ด หมู ไก่ วัว ควาย ได้อีกด้วย ประเพณีผีตาโขนของเผ่าลัวะนี้ ได้สืบทอดและรักษากันมาตั้งแต่โบราณกาล เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน
ผีโขน หมายถึง การแต่งหน้ากากคล้ายหัวโขน คือแต่ง หู ตา จมูก ปาก ให้น่ากลัวคล้ายผี ไม่เพียงแต่เท่านั้นยังจัดทำทรงผม เครื่องห่อหุ้มร่างกายให้รกรุงรัง คล้ายผีมากขึ้น เป็นงานบุญเฉพาะอำเภอพังโคน จังหวัดสกลนครน ผีตาโขน หมายถึง การละเล่นของงานบุญหลวงซึ่งเป็นงานบูญเฉพาะท้องถิ่นของ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และยังเป็นความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องส่งพระเวสสันดร กลับพระนคร โดยพวกผีตาโขน จะร่วมขบวนตามมาส่งเสด็จซึ่งเป็นขบวนสุดท้าย ในสมัยก่อนเรียกว่า "ผีตามคน" พอนานเข้าก็เพี้ยนมาเป็น "ผีตาโขน"
ดังที่ใช้เรียนในปัจจุบันผีโขนเกิดจากความเชื่อของชนเผ่าหนึ่งในจังหวัดสกลนคร คือ เผ่าไทอีสาน ซึ่งเป็นชนกลุ่มหนึ่งในจำนวน 6 เผ่า ของจังหวัดสกลนคร ซึ่งประกอบไปด้วย เผ่าย้อ เผ่ากะเลิง เผ่าภูไทย เผ่าโส้ และเผ่าไทยอีสาน การเล่นผีโขน บ้านไฮหย่อง จึงสืบมรดกวัฒนธรรมประเพณีต่อกันมา ดังปรากฎว่า บรรดาผีมเหสักข์หลักเมือง ในบ้านไฮหย่องมีชื่อว่า "ผีจันต์" อยู่ในกลุ่มผีระดับสูงด้วย ที่เข้าร่วมขบวนแห่พระเวสสันดร
ที่มา : m-culture
|