"ชนินทร์" ตั้งข้อสงสัย BTS อัดคลิปทวงหนี้รัฐบาล นี่คือละครฉากใหญ่หรือไม่?
โดย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับกรณี BTS อัดคลิปทวงหนี้รัฐบาล ผ่านทางด้านเพจเฟซบุ๊ค ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ วึ่งมีรายละเอียดว่า
"รองโฆษกพรรคเพื่อไทย จี้รัฐเลิกจับมือนายทุนเล่นละครตบตาประชาชน แก้ปัญหา BTS ด้วยวิธีการที่โปร่งใส
จากกรณีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ส่งจดหมายทวงหนี้ออนไลน์ในรูปแบบคลิปผ่านยูทูปและฉายบนขบวนรถบีทีเอสทั่วกรุงเทพมหานคร และยังเผยแพร่เอกสารในทวิตเตอร์บัญชีทางการของบีทีเอส หวังบีบให้รัฐบาลเร่งชำระหนี้สินรวม 3 หมื่นล้านบาท ผมอยากให้ทุกคนลองตั้งขอสังเกตกับเรื่องนี้อีกทีครับ
มองเผินๆนี่อาจเหมือนการประจานจากเอกชนด้วยการทวงหนี้รัฐที่ค้างจ่ายเท่านั้น แต่หากมองให้ลึกลงไปกลับมีคำถามว่า “นี่คือละครฉากใหญ่ของคู่รักรัฐบาลสืบทอดอำนาจให้กับกลุ่มทุนในสังกัดหรือไม่?"
จากคำสัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 7 เมษายนว่า ประชาชนได้ประโยชน์ไปแล้วจากการที่รัฐยอมขาดทุนด้วยการงดเว้นการเก็บค่าโดยสารบางส่วน ประกอบกับการปล่อยข้อมูลว่าหากไม่ต่อสัญญาประชาชนต้องจ่ายค่าโดยสาร 104-158 บาทต่อเที่ยวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ... ดูเหมือนว่าทั้งรัฐและเอกชนกำลังสร้างสถานการณ์วิกฤตที่ไร้ทางออก เพื่อสร้างความชอบธรรมให้วิธีแก้ปัญหาแบบฉ้อฉลที่ซ่อนไว้ข้างหลังหรือไม่ ด้วยการเตรียมใช้อำนาจ ม.44 ยืดอายุสัญญาสัมปทานให้เอกชนผู้เดินรถบนสัญญาหลักที่มีผู้โดยสารจำนวนมากไปอีก 30 ปีโดยไม่ต้องมีการประมูลแข่งขัน เพื่อทดแทนภาระหนี้สินที่ค้างอยู่
ในความเป็นจริงภาระขาดทุนหรือหนี้สินที่เกิดขึ้น อาจมีต้นเหตุมาจากการบริหารจัดการที่ไม่ดี หรือการจัดจ้างในราคาที่สูงเกินไปหรือไม่ เพราะการจ้างเดินรถในครั้งนี้ รัฐโดยบริษัท กรุงเทพธนาคม ได้จ้างบริษัทบีทีเอสเข้าดำเนินการโดยไม่ผ่านการประมูล ซึ่งส่อเค้าทุจริตอย่างชัดเจน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.อยู่
ส่วนตัวผมมองว่า ไม่ว่าข้อเท็จจริงของเหตุการณ์นี้จะคือรัฐถังแตก หรือนี่คือฉากละครฉ้อฉล ทางออกที่เป็นประโยชน์กับประชาชนที่สุดคือการชำระหนี้ที่เกิดขึ้น และรวบสัญญาทั้งหมดกลับมาประมูลใหม่ที่โปร่งใสและเสรี
ประเทศไทยจะไปข้างหน้าได้ รัฐบาลชุดนี้ต้องเลิกนิสัยการใช้อำนาจมืด รวบหัวรวบหาง แอบกินในที่ลับเสียทีครับ"